WHIPLASH / ตีให้ลั่น เพราะฝันยังไม่จบ
ผู้จัดจำหน่าย : SONY PICTURES CLASSICS
สตูดิโอผู้สร้าง : BLUMHOUSE PRODUCTIONS, BOLD FILMS, RIGHT OF WAY FILMS
ผู้กำกับ : ดาเมี่ยน ชาเซลล์ (GUY AND MADELINE ON A PARK BENCH)
ประเภทของหนัง : DRAMA | MUSIC
“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”
มุมมอง
“ตีให้ลั่น เพราะฝันยังไม่จบ!”
.."WHIPLASH" เป็นหนังเล็กๆ อีกเรื่องทุกสร้างแค่ 3.3 ล้านเหรียญ ที่ไม่เล็กตามทุนสร้างเพราะ WHIPLASH นี่ถ้าพูดตรงๆ นี่เป็นหนังที่จัดได้ว่าอยู่ในเกรด A ... ไม่สิพูดได้ว่าต้อง 'S' หรือถ้ามี 10 คะแนนต้องให้ 100 เลยก็ได้ทุกอย่างในหนังนี่จัดว่าเพอร์เฟกต์และก็สมบูรณ์แบบ ไม่เว้นแม้แต่ชื่อไทยของหนัง ไม่ได้โปรโมทให้ เอ็มพิคเจอร์ แต่อย่างใด ชื่อไทยว่า "ตีให้ลั่น เพราะฝันยังไม่จบ" นี่ไม่ได้เกินเลยเพราะเมื่อถึงช่วงจุดพีคของหนังไปจนหนังจบ เราได้เห็น แอนดรูว์ เดี่ยวกลองโชว์ เพราะความฝันยังไม่จบ เราก็เข้าใจว่านี่คือชื่อไทยที่เข้ากับตัวหนังและเป็นชื่อไทยที่ดีที่สุดของปีนี้เลยก็ว่าได้..
..สำหรับหนัง WHIPLASH เรื่องนี้ว่าด้วยเรื่องของ แอนดรูว์ (รับบทโดย ไมลส์ เทลเลอร์) มือกลองดาวรุ่งแห่งชมรมแจ๊ซ ที่ต้องพยายามก้าวข้ามผ่านอุปสรรคขึ้นไปเป็นมือกลองชั้นแนวหน้าให้ได้ ผ่านการเคี้ยวเข็นโดย เทอเรนซ์ (รับบทโดย เจเค ซิมมอนส์) อาจารย์วงแจ๊ซสุดโหดที่พยายามพลักดัน แอนดรูว์ ให้ก้าวขึ้นมาเป็นยอดมือกลอง แม้ที่แสดงออกจะเป็นอะไรที่เรียกว่าตรงข้ามก็ตามที -- หนังกำกับโดย ดาเมี่ยน ชาเซลล์ (GUY AND MADELINE ON A PARK BENCH) และ WHIPLASH คือหนังใหญ่เรื่องที่สองของ ชาเซลล์..
..จริงๆ ก่อนเป็นหนังยาว 107 นาทีเรื่องนี้ WHIPLASH เคยเป็นหนังสั้นในชื่อเดียวกันเป็นหนังสั้น 18 นาทีที่กำกับโดย ดาเมี่ยน ชาเซลล์ นี่ล่ะ และได้ เจเค ซิมมอนส์ มารับบทเดียวกันเหมือนในหนังใหญ่นั่นแหละ แถมในหนังสั้นหลายๆ ซีน หลายๆ ฉากก็ถูกยกมาอยู่ในหนังใหญ่เหมือนกัน อย่างเช่นฉากที่ เทอเรนซ์ มาพูดกับ แอนดรูว์ ให้นับ 1, 2, 3, 4 หรือถาม แอนดรูว์ ว่าแกมัน Rushing or Dragging ฉากนี้ก็มาอยู่ในหนังเหมือนกันแต่พอเป็นฉบับหนังใหญ่นี่เพิ่มความโหดสัสเข้าไปด้วยการตบหน้า! แต่ถึงจะเป็นฉบับหนังสั้นหรือหนังยาวที่เหมือนกันเป๊ะคือการแสดงของ "เจเค ซิมมอนส์" มันโหดสัสจริงๆ!..
..กับหนังที่ถึงแม้เวลาที่หนังมีจะแค่ 107 นาที แต่เอาจริงๆ แค่ดูแค่ 15 - 20 นาทีสุดท้ายในฉากที่ แอนดรูว์ เดี่ยวโชว์แค่นั้นก็ถือว่าคุณคุ้มค่าเงินที่คุณเสียไปแล้ว เพราะในฉากนั้นหนังมีทุกอย่าง ครับทุกอารมณ์ ความพีคของเนื้อหา ยิ่งการนำเสนอ (เบื้องหน้ายันเบื้องหลัง ไปจน การตัดต่อ) นี่มันสุดยอดมาก แต่ถ้าเอา 15 - 20 นาทีสุดท้ายไปรวมกับเวลาที่เหลือของหนัง ขอการันตีไว้ตรงนี้เลยว่า เงินที่คุณเสียไปนี่ไร้ค่าไปทันทีเพราะ WHIPLASH มันสุดยอดมาก! -- ไม่ต้องพูดข้อเสียของหนังเลย ยิ่งกับคนที่มีความฝันแล้วทำทุกอย่างเพื่อไล่ตามความฝันยิ่งจะรู้สึกอินกับหนังเรื่องนี้เข้าไปใหญ่ มันเหมือนเห็นเราเป็นแอนดรูว์อะไรอย่างนั้น
..ลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณจดจำเกี่ยวกับพี่ไมลส์ เทลเลอร์ และ เจเค ซิมมอนส์ ไปได้เลย ลืมภาพที่พี่ไมลส์มาเต้นใน FOOTLOOSE หรือเกรียนหลุดโลกใน PROJECT X, 21 & OVER หรือแม้แต่ THAT AWKWARD MOMENT ไปซ่ำ คือเรานี่เป็นแฟนคลับพี่ไมลส์น่ะ รู้สึกเฟลตลอดที่หลายคนบอกว่าพี่ไมลส์เป็นพวกไร้ฝีมือเพราะติดภาพเกรียนๆ แม้จะเคยรับบทในหนังดราม่าอย่าง RABBIT HOLE มา หรือหนังอินดี้อย่าง THE SPECTACULAR NOW ที่พี่ไมลส์โชว์ฝีมือแต่ก็ยังโดนมองเหมือนเดิม แต่กับหนังเรื่องนี้ที่พี่ไมลส์เล่นได้สุดยอดจนหลายคนชม..
..ก็ไม่อยากบอกเท่าไรว่าโคตรปราบปลื้มที่พี่ไมลส์สามารถทำลายคำวิจารณ์แบบนั้นไปได้ เพราะใน WHIPLASH พี่ไมลส์นี่เล่นได้เทพมากโดยเฉพาะฉากตีกลองในฉากสุดท้าย (พี่ไมลส์เล่นเองกว่า 70%) เรากล้าพูดเลยว่านี่คือโมเมนท์ที่สุดยอดที่สุด ไม่เสียใจเลยที่เป็นแฟนคลับพี่ไมลส์ แต่ถึงพี่ไมลส์จะเล่นได้ดีขนาดไหน ก็ต้องพูดว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้าครับเพราะ เจเค ซิมมอนส์ เล่นได้สุดยอดของคำว่าโหดสัสจริงๆ คือลืมมันไปซ่ะความกวนบาทาในไตรภาคสไปเดอร์แมน เพราะบท เทอเรนซ์ นี้เมื่อหนังจบกล้าพูดว่า “ต้องได้ออสการ์เท่านั้น”..
ความยาวทั้งหมด 107 นาที
คะแนนหนัง 10/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น