UMIMACHI DIARY / เพราะเราพี่น้องกัน
ผู้จัดจำหน่าย : GAGA
สตูดิโอผู้สร้าง : TOHO COMPANY, GAGA
ผู้กำกับ : โคริเอดะ ฮิโรคาซึ (KISEKI, SOSHITE CHICHI NI NARU)
ประเภทของหนัง : DRAMA | FAMILY
“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”
มุมมอง
ขอออกตัวไว้ก่อนน่ะว่าผมน่ะอ่านตัวมังงะของ UMIMACHI DIARY ของ อ. โยชิดะ อาคิมิ ครบทุกเล่ม ถึงเวลานี้มังงะก็ออกมาแล้ว 6 เล่มด้วยกัน (แต่ 6 เล่มนี้ใช้เวลาตามเก็บเบาๆ ก็แปดปี! แต่ต้องเข้าใจก่อนว่ามังงะมันตีพิมพ์เป็น ราย (หลายๆ) เดือน (ลงที) มันก็สมเหตุสมผลที่ทำไมถึงมีแค่ 6 เล่ม...) แต่ผมขอพูดสั้นๆ ขอบอกว่าผมเฉยๆ กับตัวมังงะน่ะ ไม่ได้เกลียดหรอกแต่ก็ไม่ได้ชอบอะไรมากนัก แต่ถึงกระนั้นพอได้ทำเป็นหนังคนแสดงก็ต้องขอติดตามกันบ้างล่ะ (เอาจริงๆ คือเป็นแฟนคลับ คาโฮะ ที่รับบท จิกะ ไม่ได้สนใจเลยยยว่าเป็นงานกำกับของ โคริเอดะ ฮิโรคาซึ หรือมี อายาเสะ ฮารุกะ เล่น ส่วน นางาซะวะ มาซามิ นี่เพิ่งมาปลื้มนางตอนดู WOOD JOB! ฮ่าๆ)
UMIMACHI DIARY (หรือ OUR LITTLE SISTER ในชื่อสากล) เล่าเรื่องของ “สามพี่น้องตระกูลโซดะ ซาจิ (อายาเสะ ฮารุกะ), โยชิโนะ (นางาซะวะ มาซามิ) และ จิกะ (คาโฮะ) ที่อาศัยอยู่ที่เมืองคามาคุระ วันหนึ่งพวกเธอได้รับข่าวว่าพ่อของพวกเธอที่ไม่ได้เจอกันมา 15 ปีหลังหนีไปมีภรรยาใหม่ เสียชีวิตลง พวกเธอจึงเดินทางไปงานศพของพ่อและที่นั่นทั้งสามได้พบกับเด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกของพ่อเหมือนกันนั่นคือ สึซึ (ฮิโรเสะ สึซึ) หรือก็เป็นน้องสาวของพวกเธอ ทั้งสามได้ชวน สึซึ ให้มาอยู่ที่ คามามูระ มาเป็นครอบครัวเดียวกัน และมาเป็นพี่น้องด้วยกัน” นี่คือเรื่องย่อของ UMIMACHI DIARY ครับ
ในเนื้อหาของมังงะนั้นเรื่องราวโดยส่วนมากจะเน้นไปที่เรื่องราวต่างๆ ที่อยู่รอบตัวของ สึซึ เป็นหลักครับ ทั้งเรื่องอดีตเกี่ยวกับพ่อและแม่, การใช้ชีวิตอยู่กับพวกพี่ๆ ทั้งสาม (แต่ก็จะมีบ้างที่ไปพูดเรื่องชีวิตและความรักของพี่ๆ) รวมไปจนถึงเพื่อนๆ, ญาติๆ ของ สึซึ และผู้คนที่อยู่ในเมืองคามามูระแห่งนี้ แต่ฉบับหนังนี้ โคริเอดะ กลับเลือกที่จะไม่เน้นไปที่เรื่องราวของตัวละครเพียงตัวเดียวแต่กลับเน้นไปที่ตัวของ ซาจิ กลับ สึซึ แทน ซึ่งจะได้อะไรแน่นอนในส่วนตรงนี้ทำให้หนังออกมาดูดีกว่าตัวมังงะพอสมควรเลย เพราะการที่ต้องเล่าเรื่องให้จบภายในสองชั่วโมงนั้น การเน้นไปที่ตัว ซาจิ และ สึซึ เลย (โดยมี โยชิโนะ และ จิกะ คอยเสริม) ทำให้หนังสามารถลัดคิวเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของความเป็นพี่น้องได้โดยตรง
แต่ต้องยอมรับว่า โคริเอดะ กล้าที่ตัดอะไรไปเยอะเหมือนกัน อาทิ เรื่องราวของเพื่อนๆ ในทีมโชนันอ็อคโตปุส หรือเรื่องญาติของสึซึ เป็นต้น (แต่เอาจริงๆ มันก็ไม่ได้สำคัญมากถ้าไม่ตัดอาจมีเบื่อมีหลับด้วยซ้ำ) แต่ที่เสียดายมากๆ (แม้เอาจริงๆ ผมจะเฉยๆ กับตัวมังงะน่ะแต่มันก็มีโมเมนท์ที่ เออ มันก็ดีน่ะ ตัดไปก็เสียดายน่ะ) นั่นคือเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง ฟูตะ (เพื่อนร่วมทีมและห้องของสึซึ) กับ คุณป้า (ที่เป็นเจ้าของร้านอาหารที่สึซึไปกินบ่อยๆ) คือไม่ขอบอกว่ามันคืออะไรน่ะแต่ในมังงะน่ะดีงามมาก น้ำตาร่วงเลยทีเดียว แต่ก็นั่นล่ะเพราะเมื่อกลายเป็นหนังบางทีไม่ก็ไม่สามารถเล่าหรือเล่นได้ ส่วนหนึ่งอาจจะไม่สามารถมีเวลาเล่าได้ หรือ ถ้าเรามันก็จะเด่นเกินสิ่งที่หนังอยากจะสื่อจริงๆ แต่มันก็แอบเสียดายอยู่เหมือนกัน
แต่โดยรวมแล้วหนังก็ยังคงเล่าที่ความสัมพันธ์ของครอบครัวและพี่น้องอยู่เหมือนเดิมนั่นแหละครับ โคริเอดะ ทำออกมาได้ดีพอสมควรผมยอมรับเลยในส่วนตรงนี้ทั้งความเรียบง่ายของตัวหนังแต่กลับเล่าได้อบอุ่นเหลือเชื่อและถ่ายทอดความงดงามของคำว่าพี่น้องได้งดงามจริงๆ นั่นแหละ เป็นหนังที่ดูแล้วมอบความรู้สึกดีๆ หลังจบให้คนดูพอสมควร ไม่มากก็น้อย แม้ว่าบางช่วงบางตอนของหนังจะดำเนินเรื่องเนิบช้าไปหน่อยก็ตามทีน่ะ แต่โดยรวมนับว่า UMIMACHI DIARY เป็นหนังที่ถ่ายทอดเรื่องของคำว่าครอบครัวได้ดีมากครับ -- อีกจุดที่ดีมากๆ คือเคมีของนักแสดงทั้งสี่ครับทั้ง ฮิโรเสะ สึซึ (ดังกว่าพี่สาว ฮิโรเสะ อลิซ แล้วตอนนี้), คาโฮะ, นางาซะวะ มาซามิ, อายาเสะ ฮารุกะ ตรงนี้ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของหนังเลยทีเดียวครับ...
ความยาวทั้งหมด 128 นาที
คะแนน 8/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น