วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2558

KISEIJU KANKETSU HEN


KISEIJU KANKETSU HEN / ปรสิต 2


ผู้จัดจำหน่าย : TOHO COMPANY
สตูดิโอผู้สร้าง : ROBOT COMMUNICATION INC.
ผู้กำกับ : ยามาซากิ ทากาชิ (STAND BY ME DORAEMON)
ประเภทของหนัง : ACTION | HORROR | THRILLER

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“ปรสิตหรือมนุษย์กันแน่ที่เป็นผู้ทำลายโลก!?”


สำหรับ KISEIJU KANKETSU HEN (แปลได้ว่า ปรสิต บทจบ, ตอนจบ) คงไม่ต้องเกรินให้มากความกันแล้วล่ะเพราะนี่คือเรื่องราวและเป็นบทสรุปของสงครามระหว่าง มนุษย์ และ ปรสิต ซึ่งในพาร์ทนี้หนังดำเนินเรื่องต่อจากพาร์ทที่แล้วที่จบได้อย่างพีคมากๆ ซึ่งพาร์ทนี้ยังมาในคอนเซปต์เดิมกับการวิพากย์วิจารณ์มนุษย์ที่ทำลายโลก แต่ที่ดูสะใจเป็นพิเศษคือพาร์ทนี้ลุยกันไปอย่างตรงไปตรงมาและไม่ต้องแฝงนัยยงนัยยะอะไรให้วุ่นวาย คือพูดก็พูดไปเลย เจ็บแสบและสะใจคนดูอย่างผมยิ่งนัก!!

หนังเปิดเรื่องด้วยการแนะนำ อุรางามิ (อาราอิ ฮิโรฟุมิ) ฆาตกรต่อเนื่องที่มีความสามารถพิเศษที่สามารถแยกแยะมนุษย์และปรสิตได้ ซึ่งนั่นเองยังเป็นการพบกันครั้งแรกระหว่าง อุรางามิ และ ชินอิจิ (โซเมทานิ โชตะ) ด้วยเหตุผลที่ว่าแผนการปฏิบัติการของกรมตำรวจที่เริ่มปฏิบัติการณ์กวาดล้างเหล่าปรสิตได้เริ่มต้นขึ้นและได้สืบสวนไปและพบว่าพวกปรสิตได้แฝงตัวเข้าไปเป็นคนของรัฐบาล ในขณะเดียวกันนักข่าวปริศนา (โอมาริ นาโอะ) ได้ตามสืบเรื่องของ ชินอิจิ และ มิคกี้ (หรือ มิกิ) แบบลับๆ จากการแนะนำของ ทามิยะ เรียวโกะ (ฟูคัตสึ เอริ) และหวังจะเปิดเผยเรื่องราวของปรสิตให้โลกรู้ ซึ่งเรื่องทั้งสองเส้นจะมาบรรจบเป็นเส้นเดียวกันและนำพาไปสู่บทสรุปของ ปรสิต และ มนุษย์ ในที่สุด..!


ผมชอบน่ะพูดตรงๆ ผมชอบและผมก็ปลื้มมากกับ ปรสิต ทั้งสองพาร์ท ถ้ามองว่า ปรสิต ทั้งสองพาร์ทคือหนังเรื่องเดียวกันที่ยาว 4 ชั่วโมงและต้องแบ่งออกจนเป็นสองพาร์ทสองตอน (ก็แบบ THE GODFATHER, KILL BILL อะไรพวกนี้) คือสำหรับ ปรสิต ทั้งสองพาร์ทเนี่ยสำหรับ .. "ผม" .. คิดว่าเนี่ยเป็นหนังที่ทำออกมาได้สมบูรณ์แบบน่ะ จะในด้านความเป็นหนัง หรือในด้านการดัดแปลงมาจากมังงะ คือทั้ง ยามาซากิ ทากาชิ ผู้กำกับของหนังและมือเขียนบทอย่าง โคซาวะ เรียวตะ คือทั้งคู่แกเก่งครับที่ทำหนังให้ออกมาสมบูรณ์แบบได้ขนาดนี้ที่สามารถปั้นบทหนังให้ออกมาดีแต่เก็บองค์ประกอบและหัวใจสำคัญของมังงะได้อย่างครบถ้วน

แต่ถ้าจะชื่นชมจริงๆ ต้องไปชื่นชม อ. อิวากิ ฮิโตชิ ผู้แต่งมังงะ KISEIJU มากกว่าที่ทำมังงะดีๆ ออกมาตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อนแล้ว กับมังงะสักเรื่องที่จะกี่ปีผ่านไปก็ยังคงความยอดเยี่ยมไว้และสามารถจะวิพากย์สังคมได้ตลอดทุกยุคทุกสมัย ... พูดถึงในด้านตัวหนัง พาร์ทที่สอง สานต่อด้านความดาร์คความดราม่าต่อจากพาร์ทแรกได้ดีมากแต่เหนือสิ่งอื่นใดถึงหนังจะดาร์คหรือดราม่ายังไงหนังก็ยังคงความสนุกในตัวมันเองได้อย่างยอดเยี่ยมมากๆ นอกจากนี้หนังเองยังสามารถสร้างอารมณ์ร่วมระหว่างหนังกับคนดูได้อย่างดีเลย คือหนังมันถึงมากในด้านมิติตัวละครและการนำเสนอ (ขนาดผมอ่านมังงะจบไปหลายปีแล้ว ผมยังตื่นเต้นและลุ้นระทึกกับทุกฉากของหนังจริงๆ)


และตัวหนังเองก็ยังถึงในแง่การนำเสนอประเด็นและก็ไปถึงในด้านความสนุก โดยเฉพาะในเรื่องประเด็นนี่เป็นอะไรที่ชอบมากๆ อย่างที่บอกไปในข้างต้นว่าหนังมันสานต่อประเด็นที่หนังสร้างไว้ตั้งแต่พาร์ทที่แล้วนั่นคือเรื่อง "มนุษย์" ได้อย่างตรงไปตรงมา แต่ถ้าตามตั้งแต่พาร์ทที่แล้วดีๆ ล่ะก็จะรู้ว่าหนังหนังเองมันก็แอบแฝงประเด็นอื่นๆ สอดแทรกมาด้วย ซึ่งในที่นี้คือเรื่องของแม่นั่นเอง อย่างพาร์ทที่แล้วก็เรื่องของ ชินอิจิ กับ แม่ แต่มันก็แอบแฝงและวางประเด็นเรื่องของ ทามิยะ ที่เป็นปรสิตแต่ตั้งท้องมีลูกเหมือนมนุษย์ลงไปนิดหน่อย ซึ่งในพาร์ทนี้หนังจับเอาประเด็นนี้มาขยาย และนั่นก็เป็นประเด็นที่หนังเล่นได้ฉลาดเลยทีเดียว คือท้ายที่สุดหนังก็จับเอาทั้งสองประเด็นมารวมเป็นเส้นเดียวกัน และท้ายที่สุดก็ขมวดปมไปสู่บทสุดท้ายได้อย่างน่าชื่นชม

แต่ในขณะเดียวกันพอหนังปูเรื่องและขมวดปมสร้างอารมณ์ไปเรื่อยๆ แต่หนังก็มีฉากแอ็คชั่นใหญ่สุดท้ายรออยู่นั่นคือการปะทะกันระหว่าง ชินอิจิ กับ โกโต้ (อาซาโนะ ทาดาโนบุ) ขอบอกว่าฉากแอ็คชั่นทำได้สนุกและตื่นเต้นมากๆ ลุ้นระทึกแบบสุดๆ ครับ (ซึ่งตอนแรกผมชอบฉากแอ็คชั่นพาร์ทที่แล้วมากๆ น่ะ อย่างตอนสู้กันในโรงเรียนเนี่ยชอบมาก มันทั้งเจ๋งทั้งเท่ห์ แต่พอเห็นฉากแอ็คชั่นพาร์ทนี้แล้วความคิดเปลี่ยนพาร์ทนี้ทำได้ดีมาก) แต่ถ้าใครตามมังงะ (อนิเมผมไม่เคยดูน่ะ) ดีๆ จะรู้ว่ามีอะไรรออยู่จากนี้ซึ่งนั่นแม้ผมจะรู้บทสรุปอยู่แล้วแต่ผมก็ยังอดที่ลุ้นระทึกไปกับฉากนี้ไม่ได้จริงๆ เพราะหนังมันเล่นบีบอารมณ์คนดูได้อยู่หมัดจริงๆ ครับ


ขอวกกลับเข้าเรื่องที่พูดก่อนหน้านี้เรื่องที่บอกว่าเป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากมังงะได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนอื่นเคยพูดไปบ้างแล้วตอนพาร์ทแรกออกฉาย พาร์ทนี้ผมก็ยังจะชื่นชมอยู่เหมือนเดิมครับ แน่นอนว่าจะดัดแปลงมันก็ต้องมีตัดอะไรไปบ้าง คือพาร์ทนี้รวมๆ ก็ตัดไปนิดหน่อยแต่โดยรวมไม่ทำจนหลุดกรอบของมังงะไป หนังยังเคารพมังงะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย แต่ทำไมน่ะพอตัดนู่นนิดนี่หน่อยไป หนังกลับออกมาดีและสมบูรณ์แบบลงตัวในทุกด้านจริงๆ ผมจะไม่พูดหรอกว่านี่คือหนังที่ดัดแปลงมาจากมังงะที่ดีที่สุดแต่ผมจะพูดว่า KISEIJU ทั้งสองพาร์ทอยู่ในลำดับต้นๆ หนังที่ดัดแปลงมาจากมังงะที่เพอร์เฟกต์ที่สุดเคียงค้าง RUROUNI KENSHIN ไตรภาค, NANA...

ความยาวทั้งหมด 117 นาที
คะแนน 9.5/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger