SHINGEKI NO KYOJIN ATTACK ON TITAN / ผ่าพิภพไททัน
ผู้จัดจำหน่าย : TOHO COMPANY
สตูดิโอผู้สร้าง : TOHO COMPANY
ผู้กำกับ : ฮิกูชิ ชินจิ (LORELEI)
ประเภทของหนัง : ACTION | ADVENTURE | DRAMA
“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”
มุมมอง
“ผ่าพิภพไททันคือแสงสว่างที่ริบหรี่ท่ามกลางความสิ้นหวัง!?”
ถ้าต้องบอกว่าในรอบประมาณ 5 ปีที่ผ่านมามังงะเรื่องไหนฮิตติดลมบนที่สุดขนาดฮิตไปทั่วโลกผมคิดว่า SHINGEKI NO KYOJIN หรือชื่อไทย ผ่าพิภพไททัน ต้องติดท็อปทรีแน่นอน จะด้วยเหตุเพราะความฮิตความสนุกของมังงะ, อนิเม หรือเสน่ห์ของตัวละคร หรืออะไรก็ตามแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะมันฮิตจริงๆ แน่นอนพอมันฮิตไม่แปลกที่จะโดนเอาไปทำเป็นสินค้ามากมายและหนึ่งในนั้นคือการเอาไปดัดแปลงทำเป็นหนังคนแสดง ผ่าพิภพไททัน จึงกลายเป็นหนังคนแสดงภายใต้การกำกับของ ฮิกูชิ ชินจิ (LORELEI)
สำหรับเรื่องราวของ SHINGEKI NO KYOJIN นั้นเรื่องราวของหนังจะเกิดขึ้นในอนาคตอีกหลายสิบหลายร้อยปีข้างหน้าที่โลกล่มสลายจากสาเหตุบางอย่าง ประกอบกับที่โลกต้องเผชิญหน้าจากการรุกรานของสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ที่เรียกว่า ไททัน (เคียวจิน) ทำให้มนุษย์ต้องสร้างกำแพงขึ้นมาเพื่อป้องกันและก็เข้าไปใช้ชีวิตอยู่ภายใต้กำแพงนับแต่นั้นเป็นต้นมา วันเวลาผ่านไปเป็นร้อยปี ไททัน กลายเป็นเพียงตำนานและเรื่องเล่าจนกระทั่งวันหนึ่ง ไททัน ขนาดยักษ์ได้ปรากฏตัวและทำให้มนุษยชาติต้องเผชิญกลับวิกฤติอีกหน
เคยอ่านบทสัมภาษณ์ที่ไหนสักที่ที่ อ. อิซายาม่า ฮาจิเมะ อนุญาติให้ทั้งผู้กำกับและมือเขียนบท (วาตานะเบ้ ยูสูเกะ กับ มาชิยาม่า โทโมฮิโระ) ของหนังสามารถดัดแปลงและแก้ไขให้ออกมาเป็นหนังของคุณผู้กำกับอย่าง ฮิกูชิ ชินจิ ได้อย่างเต็มที่โดยมีข้อแม้อย่างเดียวคือรักษาหัวใจสำคัญของเรื่องอย่าง ไททัน ไว้ แต่ผมว่านั่นเป็นข้อผิดพลาดไงก็ไม่รู้ที่ อ. อิซายาม่า ไปอนุญาติแบบนั้นเพราะทั้งมือเขียนบทและผู้กำกับแกทำออกมาได้สาสมแกใจแกโดยแทบไม่ได้ใส่ใจกับตัวเนื้อหามังงะเลยแม้แต่น้อย คือถ้าไม่นับพวกไททันและการเก็บตัวละครหลายๆ ตัวไว้ เช่น เอเรน, มิคาสะ นอกนั้นเนื้อหาแทบไม่ได้มีอะไรที่เหมือนกันกับมังงะเลยแม้แต่นิดเดียว
ทั้งการตัดตอนตัวละครสำคัญๆ ออกไปหรือการเพิ่มหรือเปลี่ยนตัวละครไปหมด (เช่นไม่มี รีไวล์ แต่เป็นทางด้านของ ชิกิชิมะ ที่มาแทน ซึ่งเป็นตัวละครออริจินอลในหนัง (หรือเปล่า?)) ถ้าจะพูดให้ถูกคือหนังรื้อโครงสร้างทุกอย่างที่มีของมังงะทิ้งไปหมดและก็แก้ไขความสัมพันธ์ตัวละครนิดหน่อยหลักๆ คือ เอเรน กับ มิคาสะ ที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นหน้ามือเป็นหลังมือ โอเคเพราะงั้นในเมื่อมันแทบไม่มีอะไรเหมือนกันเลยแม้แต่น้อยงั้นขอไม่พูดถึงและเปรียบเทียบล่ะกันน่ะงานนี้ ขอพูดถึงในแง่ความเป็นหนังเพียวๆ ล่ะกันน่ะ
หนังยาวแค่ 98 นาทีเองน่ะสำหรับพาร์ทแรกนี้ (ส่วนถ้ารวมพาร์ทสองที่จะตามมาไปด้วยซึ่งจะยาวแค่ 88 นาทีหนังมันก็จะยาวเลยสามชั่วโมงมาแค่นิดเดียวซึ่งถือว่าสั้นมากครับสั้นโคตรๆ นี่นับรวมเครดิตแล้วน่ะ) ขอบอกเลยครับหนังสั้นมากแต่จะยาว 3 ชั่วโมงหรือสั้นแค่ชั่วโมงครึ่งแต่ถ้าหนังปูเรื่องปูบทดีนี่ไม่ใช่ปัญหาเลย แต่สำหรับพาร์ทแรกถือว่าหนังปูเรื่องได้เร็วมากแต่นั่นก็มาพร้อมกับความน่าเบื่อแบบสาหัสจัดหนักจัดเต็มมากครับ ตลอดกว่า 90 นาทีนับแต่เปิดเรื่องนี่ผมแทบหลับเลยน่ะ คือนั่งหาวหลายครั้งมาก คือหนังสอบตกเรื่องการทำให้คนดูมีอารมณ์ร่วมกับหนังมาก ถึงหนังจะปูถึงความน่ากลัวของ ไททัน ต่อตัวละครขนาดไหน แต่ดูไปดูมามันพวกตัวละครก็เหมือนไม่กลัวเลย จะหดหู่ก็ไม่ใช่อีกนั่นแหละ
แถมหนักกว่าก็คือรู้สึกว่าหนังอัดนั่นอันนี่เข้ามาได้เละเทะมาก ไม่มีการอธิบายถึงคนที่อยู่ในกำแพงชั้นในนอกจากว่าคนที่อยู่ในกำแพงเป็นพวกคนรวย (ในมังงะมันจะสำคัญต่อเนื้อหาในช่วงหลัง หนังแม่มก็ไม่ได้เล่า) ไหนจะตรรกะและเหตุผลตัวละครตัวอื่นๆ ที่ไม่ใช่ เอเรน กับ อาร์มิน ก็ดูงี่เง่าซ่ะเหลือเกิน โดยภาพรวมของหนังคือเละน่ะคือเละมาก ทั้งไม่สนุกและก็น่าเบื่อมาก ฉากแอ็คชั่นก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะมันส์ไม่ลุ้นเลยแม้แต่น้อย ยิ่งช่วงท้ายที่ลุยกับพวก ไททัน เนี่ย ไปกันใหญ่เลยน่าเบื่อครับน่าเบื่อมาก แม้ว่าฉากสุดท้ายจะมีไฮไลท์สำคัญอยู่ก็ตาม โดยรวมถือว่าหนังมันไม่เวิร์คและทำได้ขัดใจคนดู (อย่างผม) มากน่ะ
แต่เอาจริงๆ SHINGEKI NO KYOJIN มันก็ไม่ได้ห่วยแบบเต็ม 100 น่ะคุณ คุณไปดูอาจจะชอบก็ได้หรือไม่เคยอ่านมังงะมาก่อนเลยอาจจะรักมันก็ได้ แต่สำหรับคนที่อ่านมังงะ (อย่างผม) เนี่ยคือมันไม่ไหวจะในแง่ไหนก็ตามทั้ง ดัดแปลงมังงะเป็นหนัง หรือด้านความเป็นหนังเพียวๆ เลยก็ตามที แต่ก็คอนเฟิร์มไม่ได้อีกเต็มร้อยบางทีพาร์ทสองมันก็อาจจะดีก็ได้น่ะคุณเพราะงั้นพาร์ทสองมาก็สับ เอ้ย! มาคุยกันเต็มๆ อีกทีน่ะ -- แต่ใช่ว่าพาร์ทแรกนี่มีแต่ข้อเสียมันก็มีดีเหมือนกันเช่นพวก ไททัน ทำได้สมจริงดี (นึกมาตลอดว่าถ้ามีไททันจริงจะเป็นไง) หรือการใช่เครื่องอุปกรณ์เคลื่อนย้ายสามมิติก็ทำได้ดี และสุดท้าย มิซึฮาร่า กิโกะ ในบท มิคาสะ อันนี้เด่นชัดเธอคือสิ่งทีดีที่สุดสำหรับพาร์ทแรกพอๆ กับการที่หนังใช้เพลงของ ANTI-HERO ของ SEKAI NO OWARI ครับ...
ความยาวทั้งหมด 98 นาที
คะแนน 5/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น