วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

DEATH NOTE LIGHT UP THE NEW WORLD


DEATH NOTE LIGHT UP THE NEW WORLD / สมุดมรณะ


ผู้จัดจำหน่าย : WARNER BROS. PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : DJANGO FILM, NIKKATSU KABUSHIKI-GAISHA
ผู้กำกับ : ซาโต้ ชินสุเกะ (GANTZ, I AM A HERO)
ประเภทของหนัง : ACTION | DRAMA | THRILLER

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“เปิดม่านสู่โลกใหม่...!!”


ขอแนะนำก่อนครับว่าก่อนที่จะดู “DEATH NOTE LIGHT UP THE NEW WORLD” อยากจะให้ลองหาซีรีส์ความยาว 3 ตอนจบ DEATH NOTE NEW GENERATION ที่เกริ่นนำที่มาที่ไปของ มิชิมะ, ริวซากิ และ ชิเอน มาดูก่อนไปดูฉบับหนังครับ จะรู้ที่มาที่ไป เข้าใจอะไรขึ้นเยอะ ปะติดปะต่อเนื้อหาได้พอสมควร เพราะตัวหนังนั้น “ไม่ได้” อธิบายหรือปูปูมหลังของตัวละครเลยแม้แต่น้อย แต่ที่สำคัญกว่าหาภาค NEW GENERATION มาดูก็คือควรหาหนัง DEATH NOTE ฉบับหนังเมื่อ 10 ปีที่ทั้งสองภาคมาดูครับ เพราะหนังอ้างอิงถึง คิระ, แอล, มิสะ และเหตุการณ์ในครั้งนั้นอยู่เรื่อยๆ ครับ..

..หนังเปิดเรื่องได้ค่อนข้างน่าสนใจและก็น่าติดตามครับ กับเหตุการณ์ที่ เดธโน้ต ตกมาที่โลกทั้ง 6 เล่ม ต่อเนื่องไปที่เหตุการณ์ที่ ซากุระ อาโออิ (คาวาเอ้ รินะ) ฆ่าคนไม่เลือกหน้า และหนังก็เป็นแบบนี้ในหลายช่วงหลายตอนของหนังครับ ถ้าต้องการหนังทริลเลอร์ชิงไหวชิงพริบ เรื่องนี้ถือว่าตอบโจทย์ อาจจะน่าเสียดายอยู่บ้างที่หนังดรอปไปหน่อยช่วงกลางเรื่อง เพราะมัวแต่สาละวนอยู่กับการตามหาตามล่าผู้ถือครอง เดธโน้ต และสืบว่าเป็นใคร ซึ่งมันเหนื่อยสำหรับคนดูมากๆ เพราะมันดูพยาย้ามพยายามที่จะขยี้ในส่วนตรงนี้เหลือเกิน ซึ่งมันน่าเบื่อ แต่ถ้าผ่านจุดนี้ไปได้ บอกเลยมีความสนุกรออยู่


ยอมรับเลยครับว่าภาคนี้ LIGHT UP THE NEW WORLD สัก 40-45 นาทีสุดท้ายของหนังนี่สนุกมากครับ หนังอัดเรื่องเข้ามา ตูมๆๆๆ ชิงไหวชิงพริบกันไปมา เดาเนื้อหาและเดาบทสรุปไม่ได้ พลิกกันไปพลิกกันมา ออกแนว สุนัขไล่จับแมว แมวไล่จับหนู บางทีก็ หนูไล่จับแมว ปลาเล็กกินปลาใหญ่ของ 4 ตัวละครหลักคือ มิชิมะ, ชิเอน, ริวซากิ และก็ มิสะ (โทดะ เอริกะ) เรื่องพลิกไปพลิกมา แบบละสายตาไปจากจอแทบไม่ได้ ถือว่าสนุกเป็นอย่างมากครับ (กลายเป็นว่า 20 นาทีแรกกับ 40-45 นาทีสุดท้ายของหนังสนุกสุด นอกนั้นอะไรก็ไม่รู้)

ส่วนข้อเสียของภาคนี้มีอีกครับ ถึงหนังจะให้กลิ่นอาย คิระ ปะทะ แอล เหมือน 10 ปีก่อนอยู่พอสมควร แต่เอาเข้าจริงๆ ชิเอน ปะทะ ริวซากิ มันก็เหมือนเอาเรื่องเมื่อ 10 ปีก่อนมารียูสพอสมควร (เพิ่มเติมคือบทที่ไม่คมคายเท่า) ซึ่งมันแอบคล้ายๆ เหมือนที่ STAR WARS: THE FORCE AWAKENS หรือ INDEPENDENCE DAY: RESURGENCE เป็นนั่นแหละซึ่งใน LIGHT UP THE NEW WORLD ก็เช่นกัน ถึงภาคนี้เหตุการณ์จะทิ้งห่างจากต้นฉบับพอสมควร แต่หนังก็บังเอิญ (หรือตั้งใจ) หยิบสูตรเดิม พล็อตเดิมๆ มาเล่น เพิ่มเติมคือขยายเส้นเรื่องให้ดูเหมือนไปไกลกว่าเดิม แต่รวมๆ ซึ่งพอดูไปเรื่อยๆ ก็จะเอะใจและสังเกตุเห็นว่า ภาคนี้นี่มันลอกเนื้อหาต้นฉบับมาพอสมควรเลยนี่หน่า! อะไรประมาณนี้ครับ


อีกข้อเสียที่ไม่พูดไม่ได้ครับ หนังภาคนี้ตั้งใจและเน้นไปที่ตัวละครมากจนเกินพอดี จนแทบจะลืมยมทูตทั้งสามตนทั้ง ลุค, เออร์ม่า และ เบ็ปโปะ จนกลายเป็นตัวประกอบ แต่ที่ดูหนักกว่านั้นก็คือหนังไม่บอกถึงแรงจูงใจของเหล่ายมทูตเลย ลุค ยังพอละไว้ได้ เพราะรู้เหตุผลที่มาที่ไปอยู่ แต่สองตัวที่มาใหม่นี่สิ เราไม่เข้าใจปูมหลังหรือเหตุผลอะไรเลย จะว่าเพราะถ้าหา คิระ คนใหม่ได้จะได้เป็น ราชายมทูต ในอนาคต หรือเพราะเป็นเจ้าของ เดธโน้ต มันดูจะเบาบางเกินไปหน่อย มันน่าจะมีเหตุและผลอะไรมากกว่านี้

สามตัวละครหลักที่มาใหม่ในภาคนี้ มิชิมะ (ฮิกาชิเดะ มาซาฮิโระ), ริวซากิ (อิเคมัตสึ โซสุเกะ), ชิเอน (สึดะ มาซากิ) หลักๆ คือหนังจะเน้นไปที่ ริวซากิ ที่โดดเด่นที่สุด, ชิเอน บทก็มาๆ หายๆ แต่ที่เป็นที่จดจำที่สุดก็คือ มิชิมะ ครับ มิชิมะ ผู้เป็นตัวละครที่อยู่กึ่งกลางของเรื่อง แต่ก็มีอะไรให้ตื่นตาตื่นใจ และเซอร์ไพรซ์ กับตัวละครตัวนี้อยู่เรื่อยๆ ครับ, สรุปนะครับ “DEATH NOTE LIGHT UP THE NEW WORLD” เป็นหนังที่ทำออกมาดูสนุกอยู่ครับ หนังแลดูวางปมเพื่อมีภาคต่อ ถ้าทำเงิน (ซึ่งก็น่าจะทำได้เยอะอยู่ในญี่ปุ่น) แถมในซีรีส์ 3 ตอนจบหนังก็มีการพูดถึง เนียร์ และ เมลโล่ แล้วด้วย ถ้าทำภาคต่อจะเอาเรื่องนี้มาเล่นก็ไม่ยากครับ...


ความยาวทั้งหมด 135 นาที
คะแนน 7.5/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger