ฤดูที่ฉันเหงา

ฤดูที่ฉันเหงา / LOVE IN THE RAIN

ผู้จัดจำหน่าย : สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล

สตูดิโอผู้สร้าง : สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล

ผู้กำกับ : วรเวช ดานุวงศ์ (คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์)

ประเภทของหนัง : COMEDY | ROMANTIC

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง

อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง

“มุกตลกพอไหว?, ภาพสวย, นางเอกงาม, ดนตรีเพราะ ส่วนตัวหนังไม่ดีเท่าไร”

"คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์" เป็นหนังที่กำกับโดยนักร้อง-นักแสดงชื่อดัง แดน วรเวช ที่วางจำหน่ายในรูปแบบ DVD มาซักพักใหญ่ๆ แล้ว แต่ผู้เขียนก็ไม่เคยได้ดูซักทีด้วยหลายเหตุผล อาทิ ความยาวของหนังมันยาว 2 ชั่วโมง และไม่ค่อยอยากดูจึงเป็นเหตุผลง่ายๆ ที่ยังไม่ได้ดูซักที ซึ่งหลังจากผ่านมาไม่นาน คุณแดน วรเวช ก็ส่งผลงานการกำกับเรื่องที่ 2 ออกมาซึ่งก็คือ "ฤดูที่ฉันเหงา" หนังโรแมนติค-คอเมดี้ ที่ได้ นักแสดงอย่าง โทนี่ รากแก่น, แจ็ค แฟนฉัน, นารา วาตานาเบะ, แป้งโกะ จินตนัดดา และ แดน วรเวช มานำแสดง กับหนังในธีมที่ว่า ความเหงาและสายฝน ซึ่งธีมเรื่องดูก็ใช้ได้อยู่ครับ แต่งานนี้เมื่อมีโอกาศได้ดูหนังจริงๆ แล้วรู้สึกว่างานนี้ธีมของหนังก็ช่วยไม่ได้ครับ

เพราะว่าหนังมันไม่รู้สึกสนุกเลย ทั้งการดำเนินเรื่อง หรือ การกระทำของตัวละคร และ ที่มาที่ไป หนังทำออกมาได้ไม่ไหลลื่นและรู้สึกว่ามันไม่สนุกครับ หนังมันเอาคนดูไม่อยู่ครับ ทั้งการกระทำของตัวละครที่ดูไร้เหตุผลมากๆ ในหลายฉาก หรือแม้แต่บทสนทนาของตัวละครที่ดูทำให้เหมือนดูละครทีวียังไงอย่างงั้น อีกทั้งการดำเนินเรื่องของหนังที่ดูลอยๆ ช้าๆ หาจุดรวมของหนังไม่ได้ ซึ่งถึงแม้ว่าหนังจะสรรหามุกตลกมาเพื่อช่วยหนังแต่ก็ดูท่าจะช่วยอะไรไม่ได้มาก เพราะบางมุกก็ไม่ผ่าน และเอาจริงๆ มีเพียงมุกตลกต้นเรื่องก่อนขึ้นไตเติลของ ฤดูที่ฉันเหงา เท่านั้นที่เรียกเสียงหัวเราะได้สนั่นโรง ส่วนที่เหลือต่อจากนั้นออกแนวเงียบซะส่วนใหญ่

แถมในฤดูที่ฉันเหงายังใส่หนังสั้นที่เป็นหนังตลกลงมา ซึ่งรู้สึกว่าจะไม่จำเป็นต่อเนื้อเรื่องลงมาอีก ซึ่งเอาดีๆ เลย บางทีหนังสั้นความยาวไม่ถึง 10 นาทีเรื่องที่ว่า ยังรู้สึกสนุกกว่าตัวหนังฉบับเต็มซะอีก ซึ่งโดยรวมหนังดูไร้จุดหมายและไม่สนุกอย่างแรงครับ ว่าถึงข้อเสียไปแล้วมาพูดถึงข้อดีกันซักนิดดีกว่าครับ ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าหนังเรื่องนี้กำกับภาพและถ่ายภาพออกมาได้สวยงามเป็นอย่างมาก ทั้งโลเกชั่นหรือฉากฝนตกต้องยกนิ้วให้ว่าหนังถ่ายภาพออกมาได้สวยโดยเฉพาะฉากฝนตก ที่มักจะมาพร้อมกับเพลงประกอบเพราะซึ่งส่วนนี้หนังทำออกมาได้ดีเป็นอย่างมากครับ ซึ่งหากนึกดูดีๆ เราก็ไม่รู้ว่าหนังถ่ายทำที่ไหนครับ แต่หากดูจากฝนตกบ่อยเหลือเกิน คงเดาว่าเป็นภาคใต้ แต่จากโลเกชั่นหน้าจะเป็นภาคเหนือมากกว่า แต่ช่างเหอะไม่สำคัญเท่าไร

อีกจุดที่รู้สึกว่ารู้สึกดีที่ได้ดูก็คงไม่พ้นนักแสดงสาวทั้ง 2 คนอย่าง นารา วาตานาเบะ และ แป้งโกะ จินตนัดดา ที่รู้สึกง่ายๆ ได้เลยว่า เป็นจุดดีที่สุดของหนังได้อย่างง่ายๆ เลย ซึ่งอีกนิด ไม่รู้เป็นเพราะความยาวหนังหรือเปล่าที่ยาวเกือบ 2 ชั่วโมงทำให้รู้สึกไม่สนุก แต่ก็น่ะช่างเหอะ...