วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

THE GREAT GATSBY


THE GREAT GATSBY / เดอะ เกรท แกสต์บี้ รักเธอสุดที่รัก


ผู้จัดจำหน่าย : WARNER BROS. PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : VILLAGE ROADSHOW PICTURES
ผู้กำกับ : บาซ เลอห์มานน์ (MOULIN ROUGE!, AUSTRALIA)
ประเภทของหนัง : DRAMA | ROMANCE

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“หนังดีแต่กว่าจะดีช้ามาก แต่ตัวละครมีเสนห์, 3มิติดี ฉากอลัง”


THE GREAT GATSBY เป็นนิยายที่แต่งโดย เอฟ. สกอตต์ ฟิตซ์เจอรัลด์ ที่ตัวนิยายเป็นการตีแผ่สังคมในยุคนั้นทั้งเรื่องความรักหรือเงินทอง ซึ่งตัวนิยายถูกแต่งขึ้นในปี 1925 ยุคที่เศรษฐกิจอเมริกายังอยู่ในยุครุ่งเรืองราคาตลาดหุ้นพุ่งสูงตลอดเวลาหรือยุคที่เรียกว่า "American Dream" ซึ่งตัว THE GREAT GATSBY โดนนำไปดัดแปลงเป็นหนังหรือละครทีวีอยู่หลายครั้งแต่แม้จะโดนนำไปดัดแปลงหลายครั้งเวอร์ชั่นที่โดนกล่าวถึงมากที่สุดคงเป็นฉบับในปี 1974 ที่ได้พระเอกอมตะอย่าง โรเบิร์ต เรดฟอร์ด มารับบท เจย์ แกสต์บี้ แต่ในปี 2013 นี้เราจะได้พบกับ THE GREAT GATSBY ฉบับใหม่จากผู้กำกับ Moulin Rouge! อย่าง บาซ เลอห์มานน์ มาเป็นคนเสกสรรค์นวนิยายสุดยิ่งใหญ่เรื่องนี้บทแผ่นฟิลม์อีกครั้งในระบบ 3มิติ!!

ซึ่งใน THE GREAT GATSBY ฉบับนี้ได้ ลีโอนาร์โด้ ดิ คาร์ปริโอ มารับบท เจย์ แกสต์บี้, โทบี้ แม็คไกวร์ รับบท นิค คาร์ราเวย์, แครี่ มัลลิแกน รับบท เดซี่ บูคาแนน, โจเอล เอ็ดเกอร์ตัน รับบท ทอม บูคาแนน, อิสล่า ฟิเชอร์ รับบท มีร์เทิล วิลสัน, เอลิซาเบธ เดบิคกี้ รับบท จอร์แดน เบเกอร์, เจสัน คลาร์ก รับบท จอร์จ วิลสัน เป็นต้น ซึ่งในตัวหนังฉบับนี้จะเล่าเรื่องผ่านมุมมองของ นิค คาร์ราเวย์ (โทบี้ แม็คไกวร์) นักเขียนหนุ่มผู้เป็นโรคซึมเศร้าและก็จิตตก ผ่านเรื่องราวในยุคปี 1922 ที่อเมริกากำลังรุ่งโรจน์สุดๆ คนมากมายต่างเข้ามาแสวงหาโชคในนิวยอร์ค ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดของเรื่องจะเล่าผ่านมุมมองของนิค และจะตอบคำถามว่าเพราะเหตุใดนิคถึงเป็นคนซึมเศร้า?


ต้องบอกก่อนเลยว่า เดอะ เกรท แกสต์บี้ รักเธอสุดที่รัก ฉบับปี 2013 ที่เลื่อนฉายมาจากปลายปี 2012 เป็นหนังที่ดีมากๆ เรื่องหนึ่งนั้นคงเพราะตัวหนังได้วัตถุดิบชั้นดีมาดัดแปลง แต่!! หนังนั้นกว่าจะกลายเป็นหนังที่รู้สึกว่าดีได้ ก็เสียเวลาไปมากโขกว่าครึ่งเรื่องแล้ว เพราะในช่วงครึ่งแรกดูจะเสียเวลาไปกับการเล่าเรื่องแนะนำตัวละครต่างๆ ที่มาที่ไปของตัวละคร หรือเน้นปาร์ตี้สุดยิ่งใหญ่อลังการเป็นหลัก ซึ่งตัวปาร์ตี้นี้หนังก็ทำออกมาได้อลังการงานสร้างแบบสุดๆ ซึ่งพอผ่านจุดเน้นฉากปาร์ตี้อลังการ หนังก็กลับมาสู่เนื้อหาจริงๆ จัง กับเรื่องราวสุดดราม่า ที่ทำออกมาได้ จุกในใจ มากกับบทสรุปของตัวละครทุกตัว ถือว่าดราม่าได้แบบจดจำไปอีกนาน

ซึ่งอย่างที่บอกตัวหนังเป็นหนังหรือนิยายที่ทำออกมาเพื่อวิพากษ์สังคมทั้งเรื่อง ผู้หญิง, เงินตรา, ความรัก ซึ่ง หนังสามารถเล่าเรื่องผ่านตรงนี้ในบทสรุปของหนังได้สวยงาม คือหนังเล่าทุกอย่างได้เคลียร์แต่บทสรุปหนังมันเจ็บมาก ซึ่งอีกอย่างที่หนังทำออกมาได้โดดเด่นอย่างมากคือ เสน่ห์ของตัวละครที่โดดเด่นมากโดยเฉพาะตัว เจย์ แกสต์บี้ ที่หนังสร้างเสนห์ของตัวละครตัวนี้ได้อย่างน่าจดจำ และมีมุมต่างๆ ที่น่าสนใจ ทั้งบางทีก็ดูเหมือนเด็ก บางทีก็ทำออกมาได้เป็นคนลึกลับ ทั้งเรื่องราวในอดีตและปัจจุบัน หนังสร้างเสนห์ตัวละครออกมาได้ดี แต่หนังดีอีกคือได้ ลีโอนาร์โด้ ดิ คาร์ปริโอ มาเล่าผ่านการแสดงยิ่งทำให้ตัวละครตัวนี้เป็นที่จดจำเป็นอย่างมาก


แต่ยอมรับอย่างหนึ่งเลยว่าการเล่าเรื่องในครึ่งเรื่องแรกเรียกความอยากนอนได้มากพอสมควร แต่สิ่งที่ไม่ชวนให้หลับไปคงไม่พ้น ฉาก 3มิติ และ โปรดัคชั่นต่างๆ ที่หนังทำออกมาได้ไม่ทิ้งลายของผู้กำกับ เอาที่ 3มิติ ก่อนเลยหนังทำฉาก 3มิติ ออกมาได้ดีประมาณหนึ่งอาจจะไม่ได้เด่นหรือมีฉากพุ่งทะลุจออะไรมากนักแต่มันมีความลึกในภาพ คือดูออกมาว่าเป็น 3มิติ ยิ่งได้ฉากโปรดัคชั่นต่างๆ ที่ดูเหมือนออกแบบฉากหรือเสื้อผ้าให้เกื้อหนุ่น 3มิติด้วยแล้วนี่คือสิ่งที่ทำให้หนังออกมาดีในครึ่งเรื่องแรกและไม่หลับไปซะก่อน ต้องชื่นชม บาซ เลอห์มานน์ ที่ไม่ทิ้งลายตัวเอง แม้การเล่าเรื่องอาจจะดีช้าไปซักหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย ดังนั้นหากจะดูเรื่องนี้ต้องดูแบบ 3มิติ หากคิดว่าจะหลับก่อนหนังจะดีครับ อีกอย่างที่ดีจริงๆ คือ เพลงประกอบครับเด่นจริงๆ โดยบางช่วงจะมีเพลง Young and Beautiful ของ ลาน่า เดล เรย์ มาให้ได้ยินอันนี้เข้ากับตัวหนังดีจริงๆ ด้านการแสดงต้องยกย่องทีมนักแสดงชุดนี้ที่สร้างเสนห์ของตัวละครได้ดี โดยเฉพาะ แครี่ มัลลิแกน ที่ยอมรับเธอดึงดูดสายตาจริงๆ...


ความยาวทั้งหมด 142 นาที
คะแนน 8/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger