วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

BYZANTIUM


BYZANTIUM / ล่าแวมไพร์อมตะ


ผู้จัดจำหน่าย : IFC FILMS
สตูดิโอผู้สร้าง : DEMAREST FILMS, LIPSYNC PRODUCTIONS, NUMBER 9 FILMS
ผู้กำกับ : นีล จอร์แดน (INTERVIEW WITH THE VAMPIRE: THE VAMPIRE CHRONICLES)
ประเภทของหนัง : DRAMA | FANTASY | THRILLER

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“หนังแวมไพร์แม่ลูกที่หนักและดราม่า แต่เล่าเรื่องดีจนต้องติดตาม!”


นีล จอร์แดน เคยพาคอหนังไปสำรวจโลกแวมไพร์มาแล้วใน INTERVIEW WITH THE VAMPIRE: THE VAMPIRE CHRONICLES (เทพบุตรแวมไพร์ หัวใจรักไม่มีวันตาย) เมื่อปี 1994 หนังที่ส่งให้ แบรด พิตต์ เป็นขวัญใจคอหนังได้ ซึ่งในหนังเรื่องนั้น นีล จอร์แดน พาสำรวจโลกแวมไพร์ที่มีเรื่องราวเป็นเรื่องของแวมไพร์หนุ่มสองตน (แบรด พิตต์ กับ ทอม ครูซ) ซึ่งหนังได้กระแสตอบรับที่ดี (ชิงออสการ์สองตัวแต่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเนื้อหาของหนัง) และมาในปีนี้ 2013 นีล จอร์แดน กลับมาอีกครั้งด้วยเรื่องของแวมไพร์ที่คราวนี้เปลี่ยนมาเป็นเรื่องของแวมไพร์สาวๆ กันบ้างกับ BYZANTIUM หนังแวมไพร์ที่เนื้อหาหนักสุดๆ ผ่านการแสดงโดยสองสาวสวย เซียร์ช่า โรแนน กับ เจมม่า อาร์เธอร์ตัน..!!

หากเปรียบ BYZANTIUM เป็นอะไรซักอย่างคงต้องบอกว่าเป็น เงื่อนที่ถูกรัดปมไว้อย่างแน่นหนาและถูกรัดไว้ถึงสองชั้น นั่นเป็นเพราะว่าหนังเป็นหนังที่ดำเนินเรื่องด้วยตัวละครสองตัวซึ่งก็คือ เอเลนอร์ เว็บบ์ (เซียร์ช่า โรแนน) กับ คลาร่า เวบบ์ (เจมม่า อาร์เธอร์ตัน) ปมแรกเป็นของ เอเลนอร์ แวมไพร์สาววัย 16 ที่มีปมปัญหาคือเบื่อกับการต้องหนีตลอดเวลาด้วยเรื่องราวและปัญหาของแม่และตัวเธอเอง เห็นได้จากเวลาย้ายสถานที่ เอเลนอร์ จะเขียนไดอารี่แต่พอเขียนเสร็จจะฉีกทิ้งทันที ซึ่งคือเธออยากจะบอกอะไรซักอย่างแต่บอกไม่ได้ ปมที่สองเป็นของ คลาร่า แม่ของเอเลนอร์ ที่ต้องหนีบุคคลลึกลับที่เกี่ยวข้องกับอดีตที่จะตามมาหลอกหลอน ทั้งสองปมนับว่าเป็นปมขนาดใหญ่ที่ชวนติดตาม


อย่างที่กล่าวไปหากเปรียบเทียบหนังก็เป็นปมขนาดใหญ่ ซึ่งการมีปัญหาของหนังเป็นปมใหญ่ๆ สองปมหนังก็สามารถแบ่งสรรปมนี้ได้อย่างลงตัว กับการแบ่งสรรน้ำหนักของเรื่องราวของสองตัวละครได้อย่างลงตัว ผ่านอดีตของทั้งสอง กับ ปัจจุบันของทั้งสอง ซึ่งการเล่าเรื่องจากในอดีตกับปัจจุบันของทั้งสองก็มีน้ำหนักที่พอดีไม่มีใครเยอะเกินไปหรือน้อยเดินไป ซึ่งการเล่าเรื่องอดีตของทั้งสองเหมือนเป็นถนนสองเส้นที่แยกออกจากกันแต่หนังก็ขมวดเนื้อหาและเรื่องราวเข้ามาเรื่อยๆ จนเป็นเรื่องเดียวกันได้ ซึ่งจริงๆ แล้วจะบอกว่าเป็นสองเส้นแยกกันก็ไม่ได้ เพราะจริงๆ รู้มาตั้งแต่ต้นแล้วว่าเป็นเรื่องเดียวกัน แต่เหมือนกับกับการกลับไปเล่าในอดีตมากกว่าว่าทำไมถึงเป็นอย่างในปัจจุบัน ซึ่งก็เล่าได้ดีและน่าสนใจ

ซึ่งในส่วนของอดีตจะเล่าไปแบบช้าๆ มีตัดสลับไปกับปัจจุบันอยู่ตลอดเวลา คือหนังมันเล่าปัจจุบันสลับไปมากับอดีต ส่วนกับปัจจุบันหนังก็เล่าได้แบบหนักเป็นอย่างมาก หนักในที่นี้คือ เนื้อหาหนักมาก ดราม่ากันแบบสุดๆ ซึ่งในภาคปัจจุบันนี้จะมีการดำเนินเรื่องไปแบบรวดเร็วอยู่ประมาณนึง ซึ่งหนังก็เล่าแบบไปเรื่อยๆ ของตัวหนัง แต่ก็ไม่พลาดแม้แต่นิดกับการเล่าและก็ไม่พลาดในการเก็บรายละเอียดที่หนังพยายามเล่าทั้งในอดีตและกับปัจจุบันที่หนังเล่นและก็ไม่พลาดแม้แต่นิดกับการเล่าเรื่องตั้งแต่จุดตั้งต้นของเรื่องยันจุดสรุปของหนัง และที่สำคัญเลยคือไม่งง! ซึ่งเมื่อถึงบทสรุปของหนังตัวหนังก็สามารถคลายปมที่รัดแน่นออกมาได้โดยไร้จุดติของหนัง


แต่ก็อาจจะไม่ได้ดังหวังสำหรับคนดูที่ต้องการหนังที่แปะหัวว่าแวมไพร์แล้วต้องการเสพหนังรักหวานแหววแบบ TWILIGHT เพราะอันนี้หนังไม่มีให้ อาจจะดูคล้ายแต่ก็ไม่ใช่เพราะความรักในนี้ไม่ได้หน่อมแน้มแบบหนังเรื่องนั้น และสำคัญหนังก็ไม่ได้น่าเบื่อถึงหนังจะดำเนินเรื่องได้หนักและดราม่าแบบสุดๆ ก็ตาม และที่แตกต่างก็คือหนังอาจจะไม่เยอะในด้านแอ็คชั่น คือเรียกว่าไม่มีเลยดีกว่า แต่พวกฉากเลือดจัดว่าเยอะพอตัว ใครชอบหนังที่มีเลือดก็น่าจะชอบกัน และ ตัวละครก็เป็นอีกส่วนที่น่าสนใจและหนังเอาอยู่ ตัวละครนำทั้งสองตัวมีมิติที่สามารถจับต้องได้เป็นแวมไพร์ที่ดูเป็นมนุษย์มีความรัก, ความต้องการ, มีปัญหาภายในจิตใจ มีความรักของแม่ลูกเป็นจุดรวมของหนังและสื่อความรักของแม่ลูกออกมาได้ดี

ส่วนดีของหนังอีกจุดคือเคมีของสองนักแสดงสาว เจมม่า อาร์เธอร์ตัน กับ เซียร์ช่า โรแนน เคมีระหว่างนักแสดงสาวทั้งสองเข้ากันเป็นอย่างมากทำให้เชื่อว่าทั้งคู่เล่นเป็นแม่กับลูกกันจริงๆ ยามต้องเข้าฉากด้วยกัน แต่พอยามใดต้องแยกกันทั้งคู่ก็แสดงบทบาทยามอยู่คนเดียวได้ดี เล่นดีอย่างไงก็แค่คิดต่อหากหนังจะจับเอามาทำภาคแยกของตัวละครก็ไม่ได้น่าเกียจ ประมาณนี้ นีล จอร์แดน กำกับ BYZANTIUM ออกมาได้ดีมีสไตล์การเล่าเรื่องที่น่าสนใจสามารถคลายปมใหญ่ๆ ที่หนังมีได้อย่างสบายๆ แต่ก็ไม่ได้คลายปมง่ายๆ แบบเวลาใกล้หมดต้องรีบ แต่ก็ชวนคนดูติดตามไปได้ตลอดเรื่อง (หากคนดูสนใจตั้งแต่เริ่มน่ะ)...


ความยาวทั้งหมด 118 นาที
คะแนน 9/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger