วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

PENGUINS OF MADAGASCAR


PENGUINS OF MADAGASCAR / เพนกวินจอมป่วน ก๊วนมาดากัสก้า


ผู้จัดจำหน่าย : 20TH CENTURY FOX
สตูดิโอผู้สร้าง : DREAMWORKS ANIMATION
ผู้กำกับ : เอริค ดาร์เนลล์ (MADAGASCAR) และ ไซม่อน เจ. สมิธ (BEE MOVIE)
ประเภทของหนัง : ANIMATION | ADVENTURE | COMEDY

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“ใครว่าเพนกวินบินไม่ได้!! ภาคแยกสุดฮาของ เพนกวินแห่งมาดากาสการ์"


ในที่สุด ผู้การ (สกิปเปอร์), โควัลสกี้, ริโก้ และก็ ไพรเวท ก็ได้ดิบได้ดีมีหนังเดี่ยว (หรือหนังหมู่) ภาคแยกเป็นของตัวเองสักที หลังไปขโมยซีนในหนัง MADAGASCAR ทั้งสามภาคที่ผ่านมาและเด่นพอหอมปากหอมคอจนมีหนังสั้นและซีรี่ย์เป็นของตัวเองและฉายทางนิคโคโลเดี่ยนอยู่สามซีซั่น! ท้ายที่สุดก็อย่างที่รู้ ดรีมเวิร์ค อนิเมชั่น ได้ตัดสินใจนำทั้งสี่ตัวมาทำเป็นหนังใหญ่สักที โดยใน "PENGUINS OF MADAGASCAR" นี้ได้ เอริค ดาร์เนลล์ หนึ่งในสองผู้กำกับของแฟรนไชส์ มาดากาสการ์ มาทำหน้าที่กำกับร่วมกับทางด้านของ ไซม่อน เจ. สมิธ ฝ่ายอนิเมชั่นของดรีมเวิร์คและเคยกำกับ BEE MOVIE!

จะยกให้ทางด้าน PENGUINS OF MADAGASCAR เป็นทั้งภาคแยกก็ได้ จะเป็นทั้งตอนต่อก็ได้ หรือแม้แต่จะเป็นภาคต้นก็เป็นได้ เพราะหนังเรื่องนี้มันเล่าครอบคลุมทั้งหมดตั้งแต่จุดกำเนิดของทั้งสี่กันเลยทีเดียวว่าเป็นมาอย่างไร ส่วนที่เป็นภาคต่อก็เพราะเนื้อหามันเล่าต่อจากภาคที่สามครับ ซึ่งเจ้าเพนกวินทั้งสี่เนี่ยมันเบื่อพวก อเล็กซ์ ที่วันๆ ฟังแต่เพลงเดิมๆ ก็เลยหนีออกมา ก็พอดีกับทางด้านมันเป็นวันเกิดของ ไพรเวท พอดิบพอดี ซึ่งงานวันเกิดนี่เองที่ทำให้เกิดเรื่องเป็นภาคแยกขึ้นมา (แต่หนังก็จะอ้างอิงตอนต้นภาคแรกอยู่พักๆ)


คือ PENGUINS OF MADAGASCAR นี่เป็นหนังที่สนุกมากกกก อันนี้พูดเลยเป็นหนังอนิเมชั่นที่สนุกจริง เป็นหนังที่ยังรักษาจิตวิญญาณ (ความฮา) ของบ้านดรีมเวิร์คได้อย่างเต็มเปี่ยมจริงๆ และยังรักษามาตรฐานความฮาของหนังแฟรนไชส์ตระกูลมาดากาสการ์ได้อย่างลงตัว แต่ล่ะมุกที่หนังเอามาเล่นนี่นับว่าฮามาก แถมในส่วนของฉากแอ็คชั่นนี่ทำได้เซอร์ไพรซ์น่ะ ดันทำออกมาได้อลังการงานสร้างซ่ะงั้น แถมยังสนุกมาก การันตีเลยว่าเด็กๆ และคอหนังอนิเมชั่นน่าจะชอบหนังเรื่องนี้กันแน่นอน

ไม่รู้มันเป็นธรรมเนียมของหนังดรีมเวิร์คหรือเปล่าน่ะที่ในหนังแต่ละเรื่อง (หรือแต่ล่ะแฟรนไชส์) มันจะมีสักตัวละครตัวหนึ่ง (หรือกลุ่ม) ที่เกิดมาเพื่อโดดเด่นและขโมยซีนคนอื่นจนบางทีกลายเป็นหน้าเป็นตาของหนังเลยก็ว่าได้ อาทิ ดองกี้ หรือ พุตส์ อิน บูทส์ ในแฟรนไชส์ SHREK, หรืออย่าง เขี้ยวกุด ในแฟรนไชส์ HOW TO TRAIN YOUR DRAGON และแน่นอนแก็งค์เพนกวินของเราในแฟรนไชส์ MADAGASCAR พอมีหนังภาคแยกก็เป็นคราวนี้เนี่ยล่ะที่แก็งค์เพนกวินโดยขโมยซีนซ่ะเอง!?


จริงๆ มันก็ไม่เชิงเป็นการขโมยซีนจนโดดเด่นเกินหน้าเกินตาพระเอกทั้งสี่ของเราหลอกครับคุณผู้ชม แต่การปรากฏตัวของพวกเขากลุ่มนี้มันเป็นอะไรที่ฮามาก และไอ้กลุ่มที่เราจะพูดถึงก็คือ "นอร์ธวินด์" ที่นำมาโดย คลาสซิฟายด์ (ให้เสียงโดย เบเนดิคต์ คัมเบอร์แบทช์) คืออย่างที่เรารู้ว่ากลุ่มเพนกวินทั้งสี่นี่เป็นนักวางแผนแต่แผนที่วางไว้เนี่ยมันจะเกิดขึ้นก่อนการปฏิบัติการไม่กี่นาทีหรือบางครั้งอาจจะต้องด้นสดเลย ซึ่งงานนี้มันดันตรงข้ามกับทีมนอร์ธวินด์ที่เป็นทีมองค์กรที่มีรูปแบบการวางแผนเป็นกิจจะลักษณะและต้องโอเวอร์เป็นหลัก

พอกลุ่มที่วางแผนด้วยความรู้สึกต้องมาปะทะกับทีมที่วางแผนด้วยสมอง อะไรๆ ก็จึงเกิดเป็นความฮา โดยเฉพาะยามใดที่ ผู้การ ต่อปากต่อคำกับ คลาสซิฟายด์ นี่เป็นอะไรที่ฮามากจริงๆ ครับ, แต่แทนที่จะบอกว่างานนี้กลุ่มเพนกวินทั้งสี่เป็นพระเอกต้องบอกว่างานนี้ ไพรเวท เป็นพระเอกมากกว่า หลังจากที่ผ่านมาบทไพรเวทไม่ต่างกับอะไรกับความจืดจาง แต่กับวีรกรรมสุดกล้าหาญที่หมอนี่ทำไว้ในเรื่อง ต้องบอกว่างานนี้ ไพรเวท เป็นพระเอก ซึ่งก็เป็นการปล่อยให้ทั้งทางด้าน ผู้การ, โควัลสกี้ และ ริโก้ กลายเป็นพระรองแทนครับ


ก่อนจบขอยกสักมุกที่คิดว่าเห้ยทีมดรีมเวิร์คนี่มันคิดมุกได้ล้ำมากก็คือไอ้การเอามุกเอาชื่อนักแสดงดังๆ (และมีตัวตนจริงๆ) มาตั้งชื่อให้กับลูกสมุนตัวร้ายและเรียกเป็นชื่อแต่พร้อมใส่คำพูดลงไป เช่น ดรูว์ แบร์รี่มอร์ ในหนังก็เรียกว่า "ดรูว์" "แบร์รี่" และก็คำว่า More ที่แปลว่ามากขึ้นอีก หรือ "เควิน" "เบค" และคำว่า On ที่แปลว่าเปิด รวมกันก็ได้ว่า เควิน เบคอน ซึ่งจริงๆ ก็มี ฮิวจ์ แจ็ค แมน และอีกมากมายให้ฮากันครับ (ถ้าตามมุกทันล่ะน่ะ) โดยรวม PENGUINS OF MADAGASCAR เป็นอีกหนึ่งอนิเมชั่นที่ดูสนุกมากจริงๆ ครับยิ่งถ้าใครเป็นแฟนมาตั้งแต่ มาดากาสการ์ ก็ชอบแน่นอนครับงานนี้...

ปล.1. หนังมี มิดเครดิต (หลังขึ้นชื่อนักแสดง ก่อนไปที่ทีมงาน)
ปล.2. IMAX มันฟินมาก (อยากดูอีก)


ความยาวทั้งหมด 92 นาที
คะแนน 8.5/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger