วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2558

MAZE RUNNER: THE SCORCH TRIALS


MAZE RUNNER: THE SCORCH TRIALS / เมซ รันเนอร์: สมรภูมิมอดไหม้


ผู้จัดจำหน่าย : 20TH CENTURY FOX
สตูดิโอผู้สร้าง : GOTHAM GROUP, TEMPLE HILL ENTERTAINMENT
ผู้กำกับ : เวส บอล (THE MAZE RUNNER)
ประเภทของหนัง : ACTION | SCI-FI | THRILLER 

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“มุ่งสู่สมรภูมิมอดไหม้ที่ ใหญ่กว่า!, สนุกกว่า!!, ระทึกกว่า!!!, มันส์กว่า!!!! ภาคแรก!?”


หลังจากที่ โทมัส, นิวท์, มินโฮ และผองเพื่อนชาวทุ่งสามารถหนีออกมาจากวงกตได้เป็นผลสำเร็จ และรับรู้เรื่องราวว่าทำไมพวกเขาถึงถูกส่งมาที่ เดอะ เมซ จากนั้นโทมัสและเพื่อนๆ ถูกช่วยไว้โดยองค์กรลึกลับ แต่ภายหลังที่พวกเขาได้รับรู้ความลับขององค์กรนั้น พวกเขาจึงต้องหาทางหนีเพื่อเอาชีวิตรอด และแล้วสิ่งที่รอพวกเขาอยู่ก็คือดินแดนที่มีนามว่า สมรภูมิมอดไหม้ !!

ออกตัวไว้ก่อนอีกรอบว่าไม่เคยอ่านตัวที่เป็นนิยายของ เดอะ สกอร์ช ไทรอัล น่ะครับเพราะงั้นจะว่ากันที่เรื่องตัวหนังเพียวๆ เลยล่ะกัน, ถ้าคิดว่าภาคแรกอย่าง THE MAZE RUNNER เป็นงานที่ครบเครื่องทั้งด้านความระทึก, ความสนุก และความตื่นเต้น แล้วล่ะก็ อันนี้คงต้องขอบอกว่าภาคนี้ "MAZE RUNNER: THE SCORCH TRIALS" สามารถที่จะพาตัวเองไปได้ไกลกว่าภาคแรกในทุกๆ ด้านทั้งความตื่นเต้น, ความระทึก, ความมันส์ รวมถึง ความสนุก ที่เหนือกว่าภาคแรกอย่างเห็นได้ชัด และแน่นอนใหญ่กว่าในด้านการดำเนินเรื่องและโปรดัคชั่นที่เล่นในพื้นที่เปิดมากขึ้น


เริ่มกันที่เนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่อง ภาคนี้มีการเปลี่ยนคนเขียนบทจากเดิม 3 คนอันได้แก่ โนอาห์ ออปเปนไฮม์, แกรนท์ เพียรซ์ มายเออร์ส และ ที.เอส. นาวลิน มาเหลือเพียง 1 คนนั่นก็ได้แก่ ที.เอส. นาวลิน ซึ่งเนื้อเรื่องเนี่ยถือว่าแตกต่างกว่าภาคแรกพอสมควร ในภาคแรกมันจะเน้นไปที่การเป็นหนังกลิ่นอายออกแนวลึกลับผสมความระทึกตื่นเต้น พอมาภาคนี้หนังเล่นในพื้นที่เปิดมากขึ้นแต่หนังก็ยังมีกลิ่นอายความลึกลับผสมความระทึกตื่นเต้นพอสมควร (ตั้งแต่ต้นเรื่องแน่นอนก็ยังคงเกี่ยวข้องกับกลุ่ม WCKD อะไรนี่เหมือนเดิม) แต่ที่แตกต่างกันแบบสุดๆ คือภาคนี้เล่นเรื่องการเอาตัวรอดตั้งแต่ต้นยันจบ เพราะงั้นความระทึก, ความตื่นเต้นเลยเพิ่มไปแบบทวีคูณ

พอเป็นอย่างนั้นก็กลายเป็นว่าหนังมันเอาคนดูได้อยู่หมัดครับ คือหนังมันสนุกครับคือสนุกมาก และหนังสามารถทำให้คนดูอยู่กับหนังไปจนจบเรื่อง ลุ้นไปกับไอ้พวกชาวทุ่งนี้เป็นอย่างมาก แถมที่เหนือกว่าภาคแรกอย่างเห็นได้ชัดก็คือ ฉากแอ็คชั่น ที่รู้สึกว่ามีมากกว่าภาคแรก (ในแบบที่ไอ้พวกโทมัสโดนอัดเอาๆ จากทั้งคน ทั้งตัวประหลาด) และมีให้ดูกันอยู่เรื่อยๆ แบบไม่ขาดสายตั้งแต่ต้นเรื่องยันหนังจบเรื่อง แต่ด้วยการที่ภาคนี้ความยาวหนังยาวตั้ง 131 นาทีมันก็จะมีบางช่วงบางตอนที่อาจจะหลุดๆ แอบน่าเบื่อไปบ้าง แต่ถ้าผ่านตรงนั้นมาได้ก็บอกได้คำเดียวว่าหนังสนุก สรุปเลยครับว่า เดอะ สกอร์ช ไทรอัล นี่ทั้ง ใหญ่กว่า, สนุกกว่า, ระทึกกว่า, มันส์กว่าภาคแรกพอตัวเลยทีเดียวครับ แถมภาคนี้เองตัวหนังก็ปิดเรื่องได้น่าตื่นเต้นมากๆ จนอยากให้ภาคต่อฉายอาทิตย์หน้าเลยทีเดียว!


จุดเด่นอีกจุดในหนังอย่างตัวละครทั้ง โทมัส, นิวท์, มินโฮ, เทริซ่า มีบทให้โชว์พอสมควร โดยเฉพาะ มินโฮ นี่เท่มาตั้งแต่ภาคแรกยังไงภาคนี้ก็ยังเท่ไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่กลุ่มตัวละครใหม่อย่าง แอริส, เบรนด้า หรือแม้แต่ ฮอร์เฮ นี่ก็มีบทบาทกันพอสมควร -- เดอะ สกอร์ช ไทรอัล ภาคนี้ยังกำกับโดย เวส บอล เหมือนกับภาคแรก ถึงแม้ภาคนี้สเกลจะใหญ่ขึ้นแต่ทาง เวส บอล แกก็ยังเอาอยู่เหมือนเดิม แต่ที่รู้สึกชอบมากในภาคนี้อีกจุดคือสกอร์ดนตรีประกอบของทางด้าน จอห์น พาเอซาโน่ ที่ทำได้อลังเข้ากับหนังดีครับ -- ดีแลน โอ'ไบรอัน, โธมัส โบรดี้-แซงก์สเตอร์, คี ฮอง ลี, คาย่า สโคเดลาริโอ เคมียังเข้ากันเหมือนเดิม รวมถึงหน้าใหม่อย่าง เจค็อบ ลอฟแลนด์ (แอริส), โรซ่า ซาล่าซ่าร์ ก็เข้าขากับพวกหน้าเดิมได้อย่างลงตัว...


ความยาวทั้งหมด 131 นาที
คะแนน 8.5/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger