วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2558

KIDOU SENSHI GUNDAM THE ORIGIN II KANASHIMI NO ARUTEISHIA


KIDOU SENSHI GUNDAM THE ORIGIN II KANASHIMI NO ARUTEISHIA / 
โมบิลสูท กันดั้ม ดิ ออริจิน : ความโศกเศร้าของอัลทีเซีย


ผู้จัดจำหน่าย : SHOCHIKU COMPANY, DREAM EXPRESS [DEX]
สตูดิโอผู้สร้าง : SUNRISE
ผู้กำกับ : ยาสึฮิโกะ โยชิคาสึ, อิมานิชิ ทาคาชิ
ประเภทของหนัง : ACTION | SCI-FI

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“สานต่อตำนานบทที่สอง! สู่การกำเนิดของ ‘ดาวหางสีแดง’ !!”


ณ ศักราชอวกาศ U.C. 0071 หรือสามปีหลังจากที่ เดกิน ซาบี้ ได้ลอบสังหาร ซีออน ซูม ไดคุน แล้วได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของโคโลนี่ไซด์ 3 ที่ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ‘สาธารณรัฐซีออน’ ทางด้านลูกๆ ของ ซีออน ซูม ไดคุน ทั้ง แคสวาล และ อัลทีเชีย ได้หลบหนีมาอาศัยอยู่ที่โลกพร้อมกับ จิมบา ราล และได้เปลี่ยนชื่อเป็น เอ็ดเวิร์ด มาส และ เซล่า มาส ตามลำดับ แต่ถึงกระนั้นปีศาจร้ายจากตระกูลซาบี้ก็ยังตามมาหลอกหลอน ทำให้สองพี่น้องต้องย้ายไปอยู่ยังโคโลนี่ไซด์ 5 และแล้วที่นั่นก็ได้เกิดการพบกันแห่งชะตากรรมของ แคสวาล และ ชาร์ อัสนาเบิ้ล! และในขณะเดียวกัน ซีออน ก็ได้พัฒนา โมบิลสูท อย่าง โมบิลเวิร์คเกอร์ ขึ้นมาอย่างลับๆ!

นี่คือการเล่าเรื่องซึ่งเป็นบทที่สองของจุดกำเนิดที่สองของ ดาวหางสีแดง กับ OVA สี่ตอนจบ และกับบทที่สองนี้ที่ได้ชื่อว่า ARTESIA'S SORROW (ความโศกเศร้าของอัลทีเซีย) ... คือบทที่สองนี้ไม่ได้หวือหวามากมายเท่ากับตอนบทแรกครับ ต้องบอกเลยครับว่าบทที่สองนี้มันเป็นรอยต่อที่เปรียบเหมือนดังกับพายุที่ลมกำลังสงบแต่กำลังจะรุนแรงในไม่ช้า (ซึ่งก็คือบทที่สามที่จะตามมา) มันเหมือนกับการปฏิวัติตัวเองของ แคสวาล ซึ่งนั่นหมายถึงการขยับการเข้าใกล้เป็น ดาวหางสีแดง ของ แคสวาล มากขึ้นทุกที และกับการถ่ายทอดอารมณ์ที่ อัลทีเซีย/เซล่า ต้องประสบพบเจอในเวลานั้น (โดนตระกูลซาบี้บุกโจมตีหวังฆ่าให้ตาย, แม่ตาย, แมวตาย, พี่ชายเริ่มกลายเป็นคนเลือดเย็น อะไรแบบนั้น)


คือก็น่ะครับบทที่สองนี้ไม่ได้มีช่วงที่เป็นแอ็คชั่นที่ใหญ่ตูมตามนัก ก็เพราะที่จะเน้นไปที่เรื่องของ แคสวาล กับ เซล่า เป็นส่วนใหญ่นั่นแหละ เพราะงั้นฉากแอ็คชั่นที่พอยกมาพูดได้ก็คือคงมีแค่ฉากที่ แคสวาล สู้กับคนของ ตระกูลซาบี้ เนี่ยแหละ แล้วก็อีกฉากก็เป็นฉากที่ทดสอบ โมบิลเวิร์คเกอร์ ของ ซีออน เนี่ยแหละ คือมันไม่ได้มีฉากที่ใหญ่โตเหมือนกับบทแรกที่มีฉากแอ็คชั่นชาร์ขับแซ็คตอนต้นเรื่อง หรือฉากที่ แคสวาล ตะบึงควบ กันแทงค์ ลุยกับกองทัพกันแทงค์ของกองทัพสหพันธ์ อะไรแบบนั้นครับ

แต่ก็เท่าที่ได้ชมด้วยตาตัวเองบทที่สองนี้ก็มีจุดที่พีคอยู่เหมือนกันนะ ซึ่งแน่นอนมันคงไม่พ้นการพบกันครั้งแรกของ แคสวาล กับ ชาร์ อัสนาเบิ้ล (ตัวจริง) กับอีกฉากก็คงเป็นการลาจากของ แคสวาล กับ อัลทีเซีย ในตอนจบของบทที่สองนี้ซึ่งจบได้พีคมากจริงๆ ครับ ... ภาคนี้คุณลุงราลบทไม่เยอะเท่าไรน่ะแต่ฉากที่แกมีส่วนร่วมถือว่าเด็ดและขโมยซีนทุกฉากจริงๆ! ... อันนี้สำหรับใครที่เป็นสาวกกันดั้มมาตั้งแต่ซีรี่ย์แรก อีกจุดที่ควรต้องยกขึ้นมาพูดนิดหน่อย ถือเป็น เซอร์วิส เล็กๆ จาก ซันไรส์ กับฉากการพบกันครั้งแรกของตัวละครแห่งชะตากรรมทั้งหลายของลูกเรือไวท์เบสและในสงครามหนึ่งปี การพบกันครั้งแรกของ สองพี่น้องกับ มิไร คุณแม่แห่งไวท์เบส หรือ การพบกันครั้งแรกของ อามุโร่ (+ ฮาโร่) กับ เซล่า


สุดท้ายที่ต้องพูด อาจจะเป็นที่ฮือฮาเล็กๆ แต่นี่แหละไฮไลท์ที่สำคัญของ ดิ ออริจิน เลย สำหรับสาวกกันดั้มรุ่นใหม่ที่ไม่ได้ติดตามซีรี่ย์ของจักรวาล U.C. อาจจะไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากมาย แต่สำหรับใครที่ติดตามมาโดยตลอดต้องตื่นเต้นเล็กๆ แน่นอน กับการที่คุณอิเคดะ ชูอิจิ เจ้าของเสียง ดาวหางสีแดง ผู้พากย์ ชาร์ อัสนาเบิ้ล มาตั้งแต่ กันดั้ม ซีรี่ย์แรกเมื่อ 35 ปีก่อน (ต่อมาแกก็กลับมาพากย์ ควาโทร ใน เซต้า กันดั้ม, ฟูล ฟรอนธาล ใน กันดั้ม ยูนิคอร์น และซีรี่ย์ ซี้ด) กลับมาพากย์ แคสวาล/เอ็ดเวิร์ด (และ ชาร์) เหมือนเดิม ซึ่งเสียงของคุณอิเคดะยังคงยิ่งใหญ่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงจริงๆ ครับ ... สุดท้ายแล้วบทที่สามซึ่งก็คือ AKATSUKI NO HOUKI (รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ) จะฉาย เมษายนปีหน้าครับ มีตัวอย่างฉายให้ดูตอนจบขอบอกว่าโคตรอยากดู ขอจบการพูดเรื่อยเปื่อยเท่านี้ครับ...


ความยาวทั้งหมด 58 นาที
คะแนน 7/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger