วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

SCOUTS GUIDE TO THE ZOMBIE APOCALYPSE


SCOUTS GUIDE TO THE ZOMBIE APOCALYPSE / 3 (ลูก) เสือปะทะซอมบี้


ผู้จัดจำหน่าย : PARAMOUNT PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : BROKEN ROAD PRODUCTIONS, OOPS DOUGHNUTS PRODUCTIONS
ผู้กำกับ : คริสโตเฟอร์ แลนดอน (PARANORMAL ACTIVITY: THE MASKED ONE)
ประเภทของหนัง : COMEDY | HORROR

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“ลูกเสือเขาไม่จับมือขวา เจอซอมบี้ขึ้นมา ยื่นมือซ้ายเอาขวานจามหัวมันให้ลั่น”


ไม่น่าเชื่อว่าในรอบประมาณสองเดือนที่ผ่านมา ไม่รู้เป็นความบังเอิญหรือตั้งใจกันแน่ที่ดันมีหนังแนวซอมบี้ (แนวคอเมดี้) ที่พร้อมใจกันเข้าฉายในบ้านเรามากขนาดนี้ ไล่ตั้งแต่ BURYING THE EX (สนุกดีดูเพลินๆ) มาจนถึง COOTIES (ไม่สนุกมากถึงมากที่สุด) และกับเรื่องล่าสุดนี้ที่เราจะนำมาพูดถึงกันนั่นก็คือ ‘SCOUTS GUIDE TO THE ZOMBIE APOCALYPSE’ งานกำกับชิ้นล่าสุดของ คริสโตเฟอร์ แลนดอน (อดีต) มือเขียนบทของแฟรนไชส์ พารานอร์มอล แอคทิวิตี้ ที่หนนี้เปลี่ยนแนวด้วยการจับเอากลุ่มนักแสดงวัยรุ่นดาวรุ่งทั้ง ไท เชอริแดน, โลแกน มิลเลอร์ รวมถึงหน้าใหม่อย่าง โจอี้ มอร์แกน มาจับมือสามัคคีเป็นลูกเสือออกลุยกับหายนะซอมบี้ตามชื่อหนัง

พูดกันตรงๆ เลยน่ะต้องพูดต้องบอกเลยว่า พล็อตหลักๆ ของหนัง ‘3 (ลูก) เสือ’ เรื่องนี้มันช่างไปละม้ายคล้ายคลึงกับพล็อตของหนังซอมบี้แนวเดียวกันอีกเรื่องที่มาก่อนหน้านี้ไม่นานซึ่งก็คือ คุณครูฮะ! (COOTIES) ซ่ะเหลือเกิน ทั้งพล็อตทั้งการดำเนินเรื่อง มาสูตรเดียวกันเลยทั้งสองเรื่อง อนึ่ง ประมาณว่ามือเขียนบทของหนังเรื่องใดเรื่องหนึ่งในสองเรื่องนี้ไปขโมยบทของอีกเรื่องมาใช่อะไรแบบนี้ (อันนี้มุกน่ะอย่าเอาไปคิดจริงจัง) คือมันเหมือนกันมากทั้งสองเรื่อง แค่เปลี่ยนสถานการณ์ในหนังจากที่ กลุ่มคุณครูที่ต้องสู้กับซอมบี้ มาเป็น กลุ่มลูกเสือที่ต้องสู้กับซอมบี้ แทนอะไรแบบนี้


แต่ถึงจะบอกว่าหนังทั้งเรื่องมันต่างมีอะไรที่คล้ายๆ กันเหมือนๆ กัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนกันเลยนั่นก็คือทางด้านของความสนุกครับ ในขณะที่ทางด้านของ คุณครูฮะ! ต่างอัดแน่ดไปด้วยความเป็นหนังที่ไม่สนุก ไหนจะความน่าเบื่อที่มาเต็มอีก สุดท้ายหนังยังเต็มไปด้วยตัวละครสุดแสนจะน่ารำคาญ (ขอพูดถึง คุณครูฮะ! เท่านี้พอล่ะกัน) แต่กลับกันกลายเป็นว่าทางด้านของ 3 (ลูก) เสือ กลับเป็นหนังที่ต่างอัดแน่นไปด้วยความสนุกไม่มีความน่าเบื่ออยู่เลยแม้แต่น้อย ท้ายที่สุดถึงแม้หนังและตัวละครในเรื่องมันจะกวนตีนและเกรียนขนาดไหนก็ตามแต่

ในความเป็นจริงก็ต้องพูดและก็ยอมรับจริงๆ ว่าในไอ้ความไร้สาระของหนังเรื่องนี้กลับถือเป็นเสน่ห์และหัวใจสำคัญของหนังเลยก็ว่าได้ครับ โดยเฉพาะกับไอ้ความเกรียนของ 3 (ลูก) เสือ ตัวนำของเรื่อง แต่ที่โดดเด่นที่สุดใน 3 (ลูก) เสือ คงไม่พ้นทางด้านของ คาร์เตอร์ (โลแกน มิลเลอร์) ที่เป็นตัวละครที่สร้างความเกรียนและเสน่ห์ให้กับเรื่องได้มากที่สุดแล้ว ซึ่งก็พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าในเรื่องนี้ 60-70 เปอร์เซนต์ในหนังมันไม่ได้มีสาระอะไรมากนักหรอก แต่ในไอ้ความไร้สาระนี้กลับมีลูกเล่นอันสุดแสนแพรวพราวในการเล่นผ่าน 3 (ลูก) เสือ ตัวละครนำ


แถมจริงๆ แล้วอีกอย่างหนังก็ไม่ได้บ้าความเป็นคอเมดี้อย่างเดียวแต่หนังยังมีอารมณ์ความเป็นหนังเฮอร์เรอร์มากพอตัว โปรดอย่าลืมสิ คริส แลนดอน ผู้กำกับ 3 (ลูก) เสือ เคยทำหนังแนวไหนมาก่อน ซึ่งตัวหนังก็ใช้ประโยชน์ในความที่หนังเป็นหนังคอเมดี้ผสมเฮอร์เรอร์เอามาสร้างซีนที่น่าจดจำให้กับหนังให้กับคนดูได้หลายฉากพอตัวทีเดียว ยกตัวอย่างเช่นฉาก อืมมม คงต้องเป็นฉาก บริตนี่ย์ สเปียร์ กับฉากเล่นแทรมโบลีน เนี่ยแหละ ไอ้สองฉากนี้เป็นฉากที่น่าจำจำเป็นอย่างมากครับ โดยเฉพาะฉาก แทรมโบลีน นี่ขำน้ำตาไหล

จริงๆ ในหนังหลายๆ ฉากก็ไม่ลืมความเป็น ลูกเสือ ของตัวละครน่ะครับ หลายๆ ฉากจะเห็นว่ามีการนำสกิลของลูกเสือมาเล่นอยู่ไม่มากก็น้อย (เอาถุงยางมาพันเป็นเงื่อน ฯลฯ) แต่ที่เด็ดดวงที่สุดคงไม่พ้นฉากแอ็คชั่นใหญ่ท้ายสุดในหนัง ที่เจ้า 3 (ลูก) เสือ โชว์สกิลการเอาของในร้านมาทำเป็นอาวุธ โอ้คุณพระ!! รวมๆ พูดได้เลยว่า 3 (ลูก) เสือ เป็นหนังที่ทำออกมาได้สนุกมากๆ อีกเรื่องครับ นอกจากนี้หนังยังมีเคมีที่เข้ากันของ 3 (ลูก) เสือ ตัวละครนำอีก นี่ยังไม่นับการมีอาหารตา (คุณผู้ชาย) อย่าง ซาร่าห์ ดูมอนท์ และ ฮาลสตัน เซจ โอเค ตีตั๋วดูเหอะครับ คุ้ม!!...


ความยาวทั้งหมด 93 นาที
คะแนน 8/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger