BEN-HUR

BEN-HUR / เบน-เฮอร์

ผู้จัดจำหน่าย : PARAMOUNT PICTURES

สตูดิโอผู้สร้าง : METRO-GOLDWYN-MAYER, LIGHTWORKERS MEDIA

ผู้กำกับ : ทิเมอร์ เบคมามบิตอฟ (WANTED, ABRAHAM LINCOLN: VAMPIRE HUNTER)

ประเภทของหนัง : ADVENTURE | DRAMA

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง

อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง

เป็นที่แน่นอนเลยว่าคงจะไม่สามารถเอา “BEN-HUR” ฉบับ 2016 นี้ไปเทียบกับงานฉบับปี 1959 ของ วิลเลี่ยม ไวเลอร์ ที่มี ชาร์ลตัน เฮสตัน ในบท จูดาห์ เบนเฮอร์ ได้อย่างแน่นอนเพราะนั่นคือผลงานขึ้นหิ้งอีกเรื่องของวงการภาพยนตร์

ว่ากันตามเนื้อผ้า BEN-HUR ฉบับปี 2016 นี้หนังเองมันก็ไม่ได้เป็นงานที่ดีหรือเป็นหนังชั้นยอดอะไรนัก พูดตามตรงมันก็เป็นแค่เพียงงาน โรมัน-เอพิคผจญภัย ธรรมด้า ธรรมดา มากๆ อีกเรื่องที่ห่างชั้นและห่างไกลกับต้นฉบับไปไกลโข ด้วยความที่หนังต้องบีบและต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้จบให้ได้ในเวลาเพียงแค่สองชั่วโมงเท่านั้น ผิดกับฉบับปี 1959 ที่มีเวลาเล่าถึง สามชั่วโมงครึ่ง (แถมมีพักครึ่งเข้าห้องน้ำห้องท่าอีกต่างหาก) ทำให้หนังจำเป็นที่ต้องตัดอะไรไปมากมายพอสมควร หนังเลยเน้นได้แค่ไม่กี่เรื่องเท่านั้น (ความรักของพี่น้องคนละสายเลือด, ตอนเป็นทาส และ การล้างแค้น เท่านั้น)

และก็เป็นที่น่าเสียดายที่บทหนังของ คีธ อาร์. คลาร์ก และ จอห์น ริดลีย์ (มือเขียนบทจาก 12 YEARS A SLAVE) เป็นบทหนังที่ชวนหาวไปตลอดเรื่องมากๆ เนื้อเรื่องก็ชวนงีบจริงๆ ด้วยความที่ ทิเมอร์ เบคมามบิตอฟ ผู้กำกับของหนังเล่าเรื่องได้เรียบๆ มาก ปมพี่น้องที่เป็นหัวใจสำคัญของเรื่องนั้น ก็ไม่ได้มีความลึกซึ้งหรือชวนอินอะไรแม้แต่นิดเดียว ความรักและการให้อภัย อะไรกันเล่า ไม่ได้มีความชวนอินหรือน้ำตาแตกสักนิด แถมหนังยังหาทางจบเรื่องแบบสดใสโลกสวยเหลือเกิน เป็นการดูหนังที่เดินออกจากโรงแล้วรู้สึกเฟลสุดๆ เลยเรื่องนี้

จริงๆ ถ้า ทิเมอร์ เบคมามบิตอฟ ใช้สไตล์ของตัวเอง จินตนาการและตีความใหม่ให้กับ BEN-HUR ฉบับนี้กลายเป็นหนังแอ็คชั่นแบบเต็มสูบ หรือมีฉากแอ็คชั่นมากกว่านี้หนังคงได้เสีย น่าจะสนุกและบันเทิงกว่านี้ (ถ้าตีความใหม่แล้วมันจะไม่ขัดกับประวัติศาสตร์เหรอ? คือตัวนิยายต้นฉบับเป็นเรื่องแต่งครับ เรื่องราวนี้ไม่มีจริงในประวัติศาสตร์แค่อิงพระคำภีร์เท่านั้น จูดาห์ เบนเฮอร์ ก็ไม่มีจริง) คือทั้งเรื่องมีฉากเดียวที่สามารถชื่นชมและยกนิ้วให้ได้คือ ฉากแข่งรถม้าในสังเวียนครับ

และเป็นฉากเดียวจริงๆ ที่ ทิเมอร์ เบคมามบิตอฟ ได้ปล่อยของได้โชว์สไตล์การกำกับของตัวเองได้แบบเต็มที่ แบบที่เคยเห็นจากหนังที่แกกำกับมาก่อนอย่าง WANTED และ ABRAHAM LINCOLN: VAMPIRE HUNTER เป็นฉากที่ดัดแปลงการสู้แบบสมัยก่อนให้เข้ากับยุคสมัยนี้ได้ลงตัวมากๆ และสำคัญเลยเป็นฉากยาวๆ 10 นาทีที่สนุกมากและรู้สึกว่าใช้ระบบ IMAX ได้คุ้ม! (3มิติเรื่องนี้ปล่อยผ่านครับ ไม่มีอะไรเลย)

แต่พอตัดกลับมาที่เนื้อหาของเรื่อง ก็อย่างที่บอกชวนง่วงชวนหาวมาก แบบที่หนังควรจะเปลี่ยนชื่อเรื่องจาก เบน-เฮอร์ มาเป็น เบน-เห้ออออออ เลยทีเดียว, ดู BEN-HUR ฉบับ 2016 นี้มีอะไรให้ขัดหูขัดตาขัดใจเยอะครับ แล้วแต่จะขัดใจแบบไหนยังไง ยิ่งหากใครเคยดูฉบับปี 1959 มาก่อนจะเป็นอะไรที่ชวนอึดอัดมากๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการแสดงที่รู้สึกแปลกๆ จากทั้ง แจ็ค ฮุสตัน และ โทบี้ เคบเบลล์ อีก รู้สึกเล่นได้แข็งๆ แปลกๆ สุดท้าย BEN-HUR ก็เป็นหนังธรรมดาตระกูลเดียวกันกับ EXODUS: GODS & KINGS ที่ทำได้ไม่ดีเท่าต้นฉบับ หรือ POMPEII ที่ไม่สนุกนั่นแล...