HOW TO TRAIN YOUR DRAGON 2

HOW TO TRAIN YOUR DRAGON 2 / อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร 2

ผู้จัดจำหน่าย : 20TH CENTURY FOX

สตูดิโอผู้สร้าง : DREAMWORKS ANIMATION

ผู้กำกับ : ดีน เดบลอส (LILO & STICH, HOW TO TRAIN YOUR DRAGON)

ประเภทของหนัง : ANIMATION | ACTION | ADVENTURE

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง

อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง

“ไวกิ้ง! ครอบครัว!! และ มังกร!!! ภาคต่อผลงานชิ้นเอกจาก ดรีมเวิร์ค อนิเมชั่นที่ยังคงยอดเยี่ยม!!”

แม้ในภาคนี้คู่หูผู้กำกับจากหนังภาคแรกจะกลับมาแค่คนเดียว ดีน เดบลอส (ในขณะที่ คริส แซนเดอร์ส ไปกำกับ THE CROODS จนฮิต) แต่ถึงกระนั้นแม้จะมาแค่คนเดียวแต่ก็ยังทำออกมาได้ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม กับ ภาคต่อของ HOW TO TRAIN YOUR DRAGON ที่เติม 2 ลงไป หนนี้ยังพาคนดูออกไปผจญภัยบนโลกอันกว้างใหญ่กับเวลาห่างจากภาคแรกห้าปี ที่แน่นอนเราจะได้เห็นตัวละครจากภาคแรกเติบโตเป็นผู้ใหญ่กันหมดทั้ง ฮิคคัพ, แอสทริด และบรรดาผองเพื่อนในเบิร์ค รวมถึงเพื่อนรักของ ฮิคคัพ ขวัญใจแฟนหนัง ทูธเลส หรือชื่อในไทย เขี้ยวกุด ที่ในภาคนี้หนังพาคนดูไปสานต่อสายสัมพันธ์ของทั้งคู่!!

..เริ่มต้นด้วยคำบรรยายเปิดเรื่องโดยฮิคคัพ (เจย์ บารูเชล) เหมือนกับภาคแรก ที่บอกว่า เบิร์ค ดินแดนแห่งไวกิ้งที่เปลี่ยนไปแล้ว เซ็ตเวลาห่างจากภาคแรกห้าปี เหล่าไวกิ้งและมังกรที่เคยเป็นคู่อริกันตอนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว เบิร์ค กลายเป็นดินแดนแห่งไวกิ้งและมังกร และมีกีฬายอดฮิตบนเกาะคือ ดราก้อนไรเดอร์ส เปิดเรื่องด้วยความยาวห้านาทีในการแข่งขัน ซึ่งก็เพียงพอให้เห็นแล้วว่าบรรดามังกรกับชาวไวกิ้งเปลี่ยนไปขนาดไหน ตัดกลับไปยังอีกจุดหนึ่ง ฮิคคัพ และ เขี้ยวกุด กำลังผจญภัยออกสำรวจและฝึกอยู่ หนังใช้เวลาตรงนี้ได้อย่างคุ้มค่ากับการแนะนำว่า ฮิคคัพ และ เขี้ยวกุด เติบโตกันไปขนาดไหน ซึ่งจุดนี้หนังจัดเต็มด้วยความน่ารักของทั้งคู่ที่ทำได้เพลินมาก

ต่อมาภายหลัง แอสทริด ตามมาสมทบ และแล้วทั้ง ฮิคคัพ และ แอสทริด ได้พบความลับบางสิ่งที่จะสะเทือนความสงบสุขของไวกิ้งและมังกรจากภัยคุกคามของ ดราโก้ บลัดวิสต์ (ดิจิมอน ฮาวด์ซู) ตัวร้ายมิติเดียวคือร้ายและร้าย ผู้มีอคติกับมังกร แต่ก็เป็นผู้ที่ควบคุมมังกรไปพร้อมกัน แต่ด้วยเหตุนี้ทำให้ ฮิคคัพ ได้ค้นพบความลับของมังกรจากการเชิญชวนของ วอลก้า (เคท แบลนเชตต์) ให้รู้ความลับ ซึ่งตรงนี้จะเป็นการเปิดเผยความลับที่จะส่งผลต่อตัว ฮิคคัพ ด้วย จากนี้หนังยังคงใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่า ซึ่งหลังจากนี้ก็เข้าสู่ฉากไคลแม็กซ์ที่ทำได้ตื่นตาตื่นใจ ส่วนจะเป็นยังไงนั้นก็ต้องตามต่อกันในโรงกันเอง..

หากจะพูดว่าใน HOW TO TRAIN YOUR DRAGON 2 ถือเป็นงาน 'ก้าวพ้นวัย' ของ ฮิคคัพ และ เขี้ยวกุด ก็คงไม่ผิดอะไรนัก นับแต่ฉากเปิดเรื่องที่ ฮิคคัพ ก็โดนพ่อพยายามจะให้สืบทอดตำแหน่งผู้นำของเบิร์คต่อ ไล่มาถึงการพยายามคิดที่แตกต่างจากคนอื่นกับการพยายามยุติสงครามกับ ดราโก้ โดยใช้การเจรจาเท่านั้น แต่นั้นก็ยังไม่เท่าไรจนกระทั่งการได้พบ วอลก้า แม่ผู้หายตัวไปยี่สิบปี! กับการปรากฏตัวของ วอลก้า ผู้ที่พยายามคืนวันเวลาที่ห่างหายให้กับ ฮิคคัพ และ สามี ผู้ที่พยายามดูแลมังกรและปกป้องมังกรเหมือนดั่งเงาสะท้อนตัวฮิคคัพเอง ซึ่ง ณ ตรงนี้เองที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ ฮิคคัพ เติบโต แต่นั้นคงไม่เพียงพอที่ทำให้ ฮิคคัพ ก้าวมาเป็นผู้ใหญ่ถ้าไม่มีการเสียสละของพ่อ!

ณ ตรงนี้จากหนังที่เปิดเรื่องด้วยการทีเล่นทีจริง จัดความฮามาตั้งแต่ฉากเปิดเรื่อง จะจริงจังก็ยังไม่ถึงที เพราะต้องปูเรื่องกันซ่ะเป็นส่วนใหญ่ ก็ได้พลิกเข้าสู่โหมดดราม่าจริงจัง (แต่มันก็ยังคงมีการขโมยซีนโดยตัวละครอื่นๆ มาเบรคไม่ให้จริงจังเกินไป) โดยที่หนังยังคงรักษาเส้นเรื่องที่ดีไว้และยังดูสนุกไม่เปลี่ยนแปลง ทีนี้หนังก็เข้าสู่ฉากไคลแม็กซ์ที่เข้าสู่การเติบโตของทั้งฮิคคัพเองและก็ตัวเขี้ยวกุดที่ต้องพยายามปกป้องบางสิ่ง คนหนึ่งพยายามปกป้องหมู่บ้าน ส่วนอีกตัวต้องปกป้องเผ่าพันธ์มังกร ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเราก็ได้เห็นการเติบโตของทั้งคู่ ที่ทำให้หนังจบเรื่องด้วยความสุขของคนดูจนอยากดูภาคที่สามต่อไป

หนังนอกจากจะทำออกมาได้สนุกและก็บันเทิงแล้วหนังยังจัดเต็มฉากแอ็คชั่นให้ออกมาดูยิ่งใหญ่อลังการมากกว่าภาคแรก (อาจจะมีข้อเสียนิดหน่อยน้อยๆ ไปบ้างเช่นสู้กันง่ายและจบกันง่ายๆ ไปหน่อยหรือจะตายก็ตายง่ายๆ) แต่ก็ทำออกมาได้สมน้ำสมเนื้อครับ กับหนังภาคนี้จุดรวมของเรื่องแน่นอนยังไงก็คงไม่พ้นตัว ฮิคคัพ และก็ เขี้ยวกุด แต่การที่หนังมีการแจกจ่ายบทบาทที่สมน้ำสมเนื้อให้ตัวละครทุกตัวทั้งคนและก็ทั้งมังกร ทำให้เส้นเรื่องของหนังดูมีสีสันและไม่จืดชืดไร้รสชาด อีกทั้งการส่งมุกและตบมุกของตัวละครก็ทำได้ทั้งฮาและน่ารัก บวกกับการขโมยซีนของบรรดาตัวละครทั้งหลายทำให้หนังออกมาดูไม่น่าเบื่อครับ โดยเฉพาะตัว เขี้ยวกุด ที่น่ารัก น่ารัก และก็น่ารัก มากๆ ครับ

หนังมีการนำเสนอภาพที่สวยงามมากไม่ขอพูดถึงอะไรเยอะมากมายแต่หนังใช้เทคนิคด้านภาพคุ้มค่ามากโดยเฉพาะฉากบนท้องฟ้าหนังทำได้คุ้มค่ามากๆ และ 3มิติก็รองรับภาพให้ออกมายิ่งใหญ่มากครับ อนึ่งหนังมีมังกรใหม่ๆ เยอะมากน่าจะเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้หนังภาคนี้ตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษ...