IP MAN 3 / ยิปมัน 3
จัดจำหน่าย : PEGASUS MOTION PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : DREAMS SALON ENTERTAINMENT CULTURE, STARBRIGHT COMMUNICATIONS
ผู้กำกับ : วิลสัน ยิป (SPL, IP MAN, IP MAN 2)
ประเภทของหนัง : ACTION | BIOGRAPHY | DRAMA
“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”
มุมมอง
ความยาวทั้งหมด 105 นาที
คะแนน 7.5/10
จัดจำหน่าย : PEGASUS MOTION PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : DREAMS SALON ENTERTAINMENT CULTURE, STARBRIGHT COMMUNICATIONS
ผู้กำกับ : วิลสัน ยิป (SPL, IP MAN, IP MAN 2)
ประเภทของหนัง : ACTION | BIOGRAPHY | DRAMA
“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”
มุมมอง
ทิ้งช่วงห่างกับภาคที่แล้วเกือบๆ 5 ปีสำหรับภาคที่สามของหนัง อาจารย์ยิปมัน ฉบับ ดอนนี่ เยน กับภาคใหม่มาทีก็เปลี่ยนผู้จัดจำหน่ายในไทยที หนนี้ได้แก่ โมโนฟิลม์ บ้างหลังจากสองภาคที่แล้วเป็นของ โรส เอนเตอร์เทนเมนท์ และ มงคลซีนีม่า ตามลำดับ โดยในภาคที่สามนี้แน่นอนว่ายังคงได้ ดอนนี่ เยน กลับมารับบทเป็น ยอดปรมาจารย์มวยหย่งชุน ยิปมัน เหมือนเดิม และยังได้ วิลสัน ยิป กลับมาทำหน้าที่กำกับเหมือนกับทางด้านของสองภาคแรก ซึ่งในภาคนี้ที่ประเทศจีนได้ฉายในระบบ 3มิติ ด้วยแต่บ้านเราไม่ได้ฉายแต่มี 4DX มาแทน
สำหรับเนื้อหาในภาคที่สามนี้เล่าเรื่องในปี 1959 ที่ประเทศฮ่องกง โดย อาจารย์ยิป ใช้ชีวิตเงียบๆ อยู่กับครอบครัวและลูกศิษย์ แต่แล้ววันหนึ่ง โรงเรียนที่ลูกของ อาจารย์ยิป โดนบรรดานักเลงภายใต้การดูแลของชาวต่างชาติทำลาย! อาจารย์ยิปและบรรดาลูกศิษย์จึงต้องลุกขึ้นมาปกป้อง แต่ในขณะเดียว อาจารย์ยิป ก็มีปัญหาชีวิตเข้ามาเมื่อ ภรรยา เกิดป่วยด้วยโรคร้ายขึ้นมา และหนำซ้ำก็มีคนที่เป็นมวยหย่งชุนเหมือนกันก็ขอมาท้าประลองกับ อาจารย์ยิป เพื่อชิงความเป็นจ้าวของมวยหย่งชุน!!
สำหรับภาคนี้เปลี่ยนโทนจากดราม่าจริงจังในสองภาคแรกมาเป็นโทนซอฟท์ๆ เล่าเรื่องชีวิตของ อาจารย์ยิป ครับ ซึ่งถ้านำภาคนี้ไปเปรียบเทียบกับภาคแรกและภาคสองคือเห็นได้ชัดเลยล่ะว่าภาคนี้นั้นอ่อนกว่าสองภาคแรกอยู่พอสมควรเลยทีเดียวทั้งเรื่องภาพรวมเนื้อหาของหนังและบทของหนัง ซึ่งห่างชั้นกว่าสองภาคแรกอยู่หลายช่วงตัว สำหรับผมเลยน่ะตลอดการชมภาคนี้กลับไม่ค่อยที่จะมีอารมณ์ร่วมกับตัวหนังสักเท่าไร ไม่มีความอินแม้แต่น้อย ทั้งเรื่องเมีย หรือเรื่องลูก ของ อาจารย์ยิป ไหนจะรวมถึงเรื่องฮ่องกง รวมถึงโรงเรียน ที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง หนังก็เล่าไปแบบผ่านๆ มาเร็วไปเร็วซ่ะเหลือเกิน จนไม่มีอารมณ์ร่วมกับตัวหนังสักเท่าไรนัก
จะด้วยเพราะการหนังภาคนี้ทิ้งห่างกับภาคที่แล้วเกือบๆ 5 ปีหรือเปล่า? ทำให้มีความรู้สึกเหินห่างกับแฟรนไชส์นี้ไม่มากก็น้อย จนทำให้รู้สึกไม่อินกับมันสักเท่าไรนัก, ถึงแม้เรื่องบทอาจจะไว้ใจไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไว้ใจได้เลยก็คือฉากแอ็คชั่น ภาคนี้ก็ยังทำได้ดีไม่เสียชื่อ ดอนนี่ เยน แม้แต่น้อย หลายฉากหลายซีนทำออกมาได้สนุกตื่นเต้นมากๆ แต่ที่รู้สึกประทับใจมากๆ เลยก็คือฉากที่ อาจารย์ยิป สู้กับ สุชาติ (รับบทโดย สุชาติ ขันวิไล) ใน โรงพยาบาล และก็ฉากที่สู้กับ ไมค์ ไทสัน ในห้อง ทั้งสองแมทช์นี้โชว์มิติไว้หลากหลาย ทั้งเรื่องศิลปะการต่อสู้ (มวยหย่งชุน, มวยไทย, มวยสากล) และการนำเสนอที่ตัดต่อและถ่ายทำได้ตื่นตาตื่นใจเอามากๆ
จริงๆ ไม่ได้มีสองฉากนี้ที่เด่นเท่านั้นครับ ยังมีฉากที่สู้กันในอู่ต่อเรือ รวมถึง ฉากต่อสู้ท้ายเรื่อง ฯลฯ ที่ทำได้ดีไม่แพ้กัน ซึ่งใครที่ติดตาม ยิปมัน เพราะฉากแอ็คชั่นก็ไม่ควรพลาดเด็ดขาดครับ (แต่ก็มีความน่าเสียดายอยู่ไม่มากก็น้อย คือหนังน่าจะมีฉากที่ให้ตัวละคร บรูซ ลี รวมถึงตัวละครที่ ไมค์ ไทสัน เล่นได้มีฉากโชว์ของมากกว่านี้ เพราะเท่าที่มีในหนังนี่ไม่จุใจจริงๆ ครับ)...
ความยาวทั้งหมด 105 นาที
คะแนน 7.5/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น