วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ZOOTOPIA


ZOOTOPIA / นครสัตว์มหาสนุก


ผู้จัดจำหน่าย : WALT DISNEY STUDIOS MOTION PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : WALT DISNEY ANIMATION STUDIOS
ผู้กำกับ : ไบรอน ฮาวเวิร์ด (TANGLED), ริช มัวร์ (WRECK-IT RALPH) และ เจเร็ด บุช
ประเภทของหนัง : ANIMATION | ACTION | ADVENTURE

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง


มหานครสัตว์ “ซูโทเปีย” คือดินแดนสวรรค์ของเหล่าสัตว์ที่นี่ใครอยากเป็นอะไรก็ได้ตามใจปรารถนา ตัวเอกในที่นี้คือ จูดี้ ฮ็อปปส์ (ให้เสียงพากย์โดย จินนิเฟอร์ กู้ดวิน) กระต่ายที่ตอนเป็นเด็กฝันที่อยากจะเป็นตำรวจซึ่งเธอก็ฝ่าฟันแล้วตามความฝันเป็นตำรวจสมใจ และแล้วเธอก็มาประจำที่ ซีพีดี (Zootopia Police Department หรือ สถานีตำรวจแห่งซูโทเปีย) และแล้วเธอก็ได้ทำคดีใหญ่กับการออกตามหาสัตว์ที่หายไปให้เจอโดยที่ จูดี้ กลับต้องจับคู่กับ นิค ไวลด์ (เจสัน เบทแมน) จิ้งจอกหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์ ในการตามสืบคดีนี้โดยทั้ง จูดี้ และ นิค มีเวลาเพียง 48 ชั่วโมงเท่านั้นในการตามสืบคดีนี้...

มีความรู้สึกว่าค่อนข้างที่จะหนักไปทาง ‘ชอบ’ กับนัยยะและสาระที่หนังนำเสนอและแฝงไว้ในเรื่องอย่าง ความแตกต่างในสังคม และ การอยู่รวมกันในสังคมกันได้ถ้ามีความเข้าใจกัน โดยที่ในเรื่องใช้ สัตว์ผู้ล่า กับ ผู้ถูกล่า เป็นตัวกลางในการสื่อถึงเรื่องนี้ โดยที่ใช้คู่หูตัวนำอย่าง จูดี้ และ นิค เป็นตัวสื่อถึงเรื่องนี้ เอาสัตว์ที่อยู่กันคนละตระกูล แตกต่างกันสุดขั่ว อย่าง ผู้ถูกล่า กับ ผู้ล่า มาเป็นตัวนำในการดำเนินเรื่อง ซึ่งตามท้องเรื่องนั้น จูดี้ เคยโดนกลั่นแกล้งโดย จิ้งจอกแต่ก็มองโลกในแง่ดีตลอด ในขณะที่ นิค นั้นเคยพยายามจะญาติดีกับพวกผู้ล่าแต่กลับโดนกลั่นแกล้ง นิค เลยไม่ค่อยเปิดใจให้ใครสักเท่าไร


หนังมีเวลาให้เล่าเรื่องนี้มากพอตัวครับกับความสัมพันธ์ระหว่าง นิค และ จูดี้ จาก ณ ตอนแรกที่ทั้งคู่มาในเชิงการเป็นคู่อริคู่กัดต่อกัน หนังก็ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปเปลี่ยนสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่จาก คู่กัดคู่อริ มาเป็น คู่หูที่ช่วยกันสืบคดี ก่อนที่ท้ายที่สุดจะกลายมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และหนังก็ไม่ได้จบที่แค่เรื่อง จูดี้ กับ นิค แต่มีทั้ง จูดี้ กับ สารวัตรโบโก้ (เป็นกระทิง ได้ ไอดริส เอลบ้า มาพากย์) หรือ จูดี้ กับ คลอว์ฮาวเซอร์ (เป็น เสือ ได้ เน็ท ทอร์เรนซ์ มาพากย์) หรือแม้แต้เรื่องที่ว่า จิ้งจอกที่เคยแกล้งจูดี้พอโตขึ้นมาก็ดันมาเป็นคนทำธุรกิจร่วมกับพ่อแม่ของจูดี้ เห็นได้ชัดเลยว่าหนังพยายามที่จะสื่อถึงเรื่องพวกนี้บ่อยพอตัวครับ

ซึ่งตัว ZOOTOPIA เองก็สื่อเรื่องที่อยากจะสื่อได้โดนใจพอสมควรเลยทีเดียวกัน ส่วนเรื่องความสนุกนับว่าตัว ZOOTOPIA เองก็เป็นอนิเมชั่นที่อยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างดูสนุกและบันเทิงพอตัวแบบ BIG HERO 6 ครับ เป็นอนิเมชั่นที่มีมุกที่สร้างสรรค์และฉลาดโดยที่เล่นและล้อพฤติกรรมของสารพัดสัตว์ได้ฮาแตกพอเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น (ไม่ถือเป็นการสปอยล์เพราะมีในตัวอย่างของหนัง) สล็อธ ที่เป็นสัตว์ที่ทำอะไรก็เชื่องช้า แต่ดันต้องมาทำงานที่ต้องใช้ความเร็วอะไรแบบนี้ (อันนี้ล้อตัวสล็อธเองและล้อระบบการทำงานของมนุษย์ไปด้วย) คือหลายๆ มุกในหนังที่หนังล้อนี่คือพีคแล้วก็ฮามาก โดยเฉพาะไอ้มุกที่เอา หนู มาล้อ มาร์ลอน แบรนโด (ทั้งน้ำเสียงและท่าทาง) จากหนัง THE GODFATHER นี่พีคน้ำตาไหลจริงๆ


ในเรื่องนี้รู้สึกรักและชอบ นิค ไวลด์ มากเป็นพิเศษ อาจจะไม่ได้เป็นตัวละครที่เห็นแล้วรักเหมือนพวก โอลาฟ หรือ เบย์แม็กซ์ รวมถึง ราลฟ์ อะไรพวกนั้น แถมเป็นตัวละครที่มีทั้งความเจ้าเล่ห์และเล่ห์เหลี่ยมพอตัว แต่พอดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ กลับชอบและรักในเสน่ห์ที่ตัว นิค มี และต้องขอชื่นชม เจสัน เบทแมน ที่พากย์ นิค ได้อย่างมี่เสน่ห์ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มและเรียบแต่เต็มไปด้วยความน่าค้นหา, สุดท้าย ZOOTOPIA เป็นอนิเมชั่นที่สนุกบันเทิงนำเสนอได้ชาญฉลาดและแฝงสาระในตัวได้อย่างลงตัวครับ...


ความยาวทั้งหมด 108 นาที
คะแนน 8/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger