วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2557

THE WOLF OF WALL STREET


THE WOLF OF WALL STREET / คนจะรวย ช่วยไม่ได้


ผู้จัดจำหน่าย : PARAMOUNT PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : RED GRANITE PICTURES
ผู้กำกับ : มาร์ติน สกอร์เซซี่ (SHUTTER ISLAND, HUGO)
ประเภทของหนัง : BIOGRAPHY | COMEDY | CRIME

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
ลีโอนาร์โด้ ดิคาปริโอ กับการแสดงที่คลั่งและบ้าที่สุดในชีวิต! ถ้าไม่ได้ออสการ์ก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว!!”


เรื่องราว จอร์แดน เบลฟอร์ท หมาป่าแห่งวอลล์สตรีท กับหนังความยาวสามชั่วโมงงานกำกับสุดบ้าของปู่มาร์ติน สกอร์เซซี่ กับลูกรักคนรอง ลีโอนาร์โด้ ดิคาปริโอ ที่มาเจอกันและร่วมงานกันเป็นครั้งที่ห้า ใน "THE WOLF OF WALL STREET" หนังที่ส่งให้ ลีโอนาร์โด้ ดิคาปริโอ ได้ลูกโลกทองคำตัวที่สองและน่าจะส่งให้ ลีโอ ได้ออสการ์นำชายสักที!! เหมอๆ ไม่แน่จะซัดทุกสาขาที่ได้ชิงทั้งหมดห้าสาขาในปีนี้ก็เป็นได้ ทั้งผู้กำกับยอดเยี่ยม, นำชายยอดเยี่ยม, สมทบชายยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม และ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม กับหนังที่ที่พูดคำว่า "F**K" มากที่สุดในประวัตศาสตร์ภาพยนตร์ถึง 569 ครั้ง..!!!

...กับหนังที่มีความยาวสามชั่วโมงพอดิบพอดี มันเป็นไปไม่ได้เลยที่หนังมันจะออกมาและติดป้ายคำว่า "ห่วย" แถมนี้เป็นงานกำกับของ มาร์ติน สกอร์เซซี่ ผู้กำกับที่ไม่มีคำว่าหนังห่วยอยู่ในสารบบของผู้กำกับคนนี้! กับบทหนังที่ผ่านการดัดแปลงมาอย่างดี ถ้าหนังยังออกมาห่วยก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน ใน สามชั่วโมง ของหนัง หนังพาคนดูไปเจอความบ้าของ หมาป่าแห่งวอลล์สตรีท ในช่วงที่ชีวิตขึ้นสูงสุด ในช่วงชีวิตที่อุดมไปด้วย เงิน, สิ่งเสพติด, ผู้หญิง และก็ เซ็กซ์ และก็ชีวิตก็ลงมาต่ำที่สุดแทบไม่เหลืออะไร


หนังจัดเต็มในเรื่องพวกนี้ทั้ง ผู้หญิง, เหล้า, เซ็กซ์, ผู้หญิง, เหล้า, เซ็กซ์ และก็ความบ้าเงินของ เบลฟอร์ท ถือเป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวให้เห็นมุมมองของอีกด้านหนึ่งของมนุษย์ที่หลงอยู่กับบางสิ่งจนเกินไปและไม่รู้จักคำว่าพอจนพบเจอกับความเลวร้ายในชีวิต!! จอร์แดน เบลฟอร์ท ก็ไม่ต่างกับอะไรกับ กอร์ดอน เก็คโค่ ใน WALL STREET หนังของ โอลิเวอร์ สโตน ที่หลงเงินจนไม่สนใจว่าใครจะเป็นแบบไหน ขอเพียงแค่รวยเท่านั้นเป็นพอ ต่างกันที่ เก็คโค่ มันเป็นผู้ลงทุนเอง ส่วน เบลฟอร์ท เป็นคนชวนคนอื่นมาเล่นหุ้นเท่านั้น

ทำให้ THE WOLF OF WALL STREET กลายเป็นหนังที่นำเสนอชีวิตของคนยิ่งใหญ่จากการโกงคนอื่นจนรวย ว่าชีวิตสุดเหวี่ยงมันเป็นขนาดไหน เป็นหนังที่อัดแน่นสามชั่วโมงที่จัดเต็มความบ้าของมนุษย์ได้สุดๆ ซึ่งตัว THE WOLF OF WALL STREET อาจจะยาวถึงสามชั่วโมงแต่หนังกลับไม่มีความน่าเบื่อเลย นั่นก็เพราะ การเล่าเรื่องในแต่ล่ะช่วงมีความน่าสนใจทั้งหมด แถมสำคัญหนังมีความสนุกและน่าติดตามตลอดทั้งเรื่องเลยทีเดียว แต่ก็ยอมรับอยู่ว่าการดูหนังเรื่องนี้ก็เหนื่อยมากพอสมควรไม่ใช่เพราะหนังยาวแต่เป็นสิ่งที่หนังปล่อยหมัดใส่คนดู ที่บ้า, คลั่ง และก็ฮา


ทุกๆ ซีเควนซ์ ทุกๆ ซีน มันจะมีอะไรให้ตื่นตาอยู่เสมอแต่ที่ติดตาตรึงใจที่สุดเลยคงไม่พ้นฉากที่ จอร์แดน เล่ายาที่ชื่อ เลมม่อน กับ ดอนนี่ ตัวละครที่ โจน่าห์ ฮิลล์ เป็นฉากที่ โอ้โห้! แม่งสุดยอดสุดๆ เป็นฉากความยาวเกือบ 10 นาทีที่มีความบ้าของตัวละครและความบ้าของผู้กำกับ, นักแสดง ยันคนเขียนบท เทเรนซ์ วินเทอร์ ที่ทำให้ฉากนี้เป็นอะไรที่สุดยอดมาก ไม่แค่นั้นแทบทุกฉากก็น่าจดจำ...โอ้ย อธิบายยากอ่ะต้องดูเท่านั้นเลยครับ THE WOLF OF WALL STREET เป็นอีกหนึ่งการดูหนังที่คุ้มค่ามากในชีวิตนี้ หนังมันทำให้เราตื่นตาตื่นใจมาก และคุ้มค่ามากขึ้นกับชายที่ชื่อ ลีโอนาร์โด้ ดิคาปริโอ

อย่างที่จั่วหัวไว้ว่า “ลีโอนาร์โด้ ดิคาปริโอ กับการแสดงที่คลั่งและบ้าที่สุดในชีวิต! ถ้าไม่ได้ออสการ์ก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว!!” เป็นอย่างที่บอกเลยครับ ลีโอนาร์โด้ ดิคาปริโอ โชว์ความสามารถทุกสิ่งทุกอย่างที่มีไปกับหนังเรื่องนี้ เอาแค่ไอ้ฉากที่เล่นยาเลมม่อนนั้นฉากเดียว อคาเดมี่ ถ้าไม่ให้ ลีโอ งานนี้มีเคืองขอบอก ลีโอ มันทุ่มการแสดงเหมือนไม่เล่นหนังมาสักปีหมดไปกับฉากนี้ฉากเดียว ทั้งเมา ทั้งคลาน ทั้งเจ็บตัวไปกับฉากนี้ นี่ไม่ต้องพูดถึงกับหนังทั้งเรื่องที่ ลีโอ เล่นได้เหมือนไม่ได้เล่นหนังมาสักสิบปี คือสรุปง่ายๆ เลย ลีโอนาร์โด้ ดิคาปริโอ ต้องออสการ์เท่านั้นครับ!!


พวกที่ไม่พูดถึงไม่ได้เห็นจะเป็น มาร์ก็อต ร็อบบี้ นักแสดงสาวที่เพิ่งเห็นกันมาล่าสุดกับ ABOUT TIME, แมธธิว แม็คคอนนาเฮย์ คู่แข่งในสาขานำชายปีนี้ที่มาเป็นตัวสมทบในหนังเรื่องนี้, โจน่าห์ ฮิลล์ อีกคน ทั้งหมดคือได้สุดๆ คือสุดๆ จริงๆ เป็นตัวบารมีที่จะส่งให่ ลีโอ ได้ออสการ์จริงๆ ครับ, สุดท้ายเลยจะพูดถึง THE WOLF OF WALL STREET ยังไงก็คงเป็นหนังที่สุดยอดมากอีกเรื่องที่ได้ดูในชีวิตนี้ครับ เป็นสามชั่วโมงที่ไม่ควรพลาดครับ!...


ความยาวทั้งหมด 180 นาที
คะแนน 10/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger