THE IMITATION GAME

THE IMITATION GAME / ถอดรหัสลับ อัจฉริยะพลิกโลก

ผู้จัดจำหน่าย : STUDIOCANAL, THE WEINSTEIN COMPANY

สตูดิโอผู้สร้าง : BLACK BEAR PICTURES, FILMNATION ENTERTAINMENT

ผู้กำกับ : มอร์เทน ทิลดัม (HEADHUNTERS)

ประเภทของหนัง : BIOGRAPHY | DRAMA | THRILLER

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง

อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง

“ผมเป็นวีรบุรุษสงคราม หรือ อาชญากร, งานแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดยอดของ เบเนดิคต์ คัมเบอร์แบทช์”

ชิง 5 ลูกโลกทองคำ (ท้ายที่สุดพลาดหมด) กับ ชิง 8 ออสการ์ในสาขารางวัลใหญ่ๆ เกือบทุกสาขาทั้ง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นำชายยอดเยี่ยม, สมทบหญิงยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม และ บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม เท่านี้ก็คงพิสูจน์ได้ว่า "THE IMITATION GAME" เป็นหนังที่ต้องชม! งานกำกับของ มอร์เทน ทิลดัม เรื่องนี้เล่าเรื่องของวีรบุรุษสงคราม ยอดนักคณิตศาสตร์นาม อลัน ทูริง ที่ได้ 'เบเนดิคต์ คัมเบอร์แบทช์' มารับบทนี้ โดยหนังเล่าเรื่องของ ทูริง ในช่วงที่เข้ามาทำงานลับให้กับรัฐบาลอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยทูริงได้เข้ามาเป็นผู้ถอดรหัสอีนิกม่าของเยอรมัน และนั่นทำให้ ทูริง เป็นผู้อยู่เบื้องหลังที่ทำให้สงครามครั้งนั้นได้ยุติลง..

อลัน ทูริง ถึงแม้จะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในฐานะวีรบุรุษสงครามที่ไม่มีใครรับรู้หรือรับทราบ นอกจากนี้ ทูริง ยังสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับคนรุ่นหลังหลังจากที่ ทูริงแมชชีน เครื่องจักรที่เขาได้สร้างขึ้นได้กลายเป็นต้นแบบของสิ่งที่เรารู้จักที่เรียกว่า คอมพิวเตอร์ ในเวลาต่อมาหลังยุติสงคราม ทูริง ได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ แต่ ทูริง ได้ถูกกล่าวหาว่าทำอนาจารในข้อหาเป็นคนรักร่วมเพศ ที่ถือเป็นความผิดในสมัยนั้น ทูริง ถูกตัดสินและต้องเลือกระหว่าง การถูกจำคุก กับ ทำหมัน โดยใช้เคมี ทูริง ได้เลือกทำหมันแต่นั่นก็ทำให้เขาใช้ชีวิตได้อย่างยากลำบาก และในวันที่ 7 มิถุนายน 1954 ทูริงได้ปลิดชีพตัวเองโดยการกินแอปเปิลเคลือบไซยาไนด์ ปิดฉากชีวิตของวีรบุรุษสงคราม..

ดูเหมือนตอนแรก THE IMITATION GAME ตั้งใจจะเล่าเรื่องการเป็นวีรบุรุษ์สงครามที่ไม่มีใครรับรู้ของ อลัน ทูริง ซึ่งก็จริงที่หนังเล่าเรื่องในแง่มุมนี้อย่างตรงไปตรงมา แต่เอาจริงๆ เพราะว่าหนังตั้งใจที่จะนำเสนอตัวตนของ ทูริง มากกว่า ทูริง ที่เป็นคนที่แตกต่างและแปลกแยก โดยหนังเรียงร้อยเรื่องราวได้อย่างเฉียบคมผ่านการตัดสลับอดีต (ช่วงที่เป็นนักเรียน) กับ ปัจจุบัน (ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2) และอนาคต (หลังจบสงครามที่ทูริงโดนจับ) และนั่นทำให้เรื่องราวของ ทูริง มีความหนักแน่น เป็นอัจฉริยะที่แตกต่าง แต่ต้องมาแบกรับชะตากรรมของโลกนี้ไว้ แต่ถึงกระนั้นหนังก็ยังเล่าในแง่มุมดราม่าแต่หนังก็มีบางมุมที่สดใสครับ โดยเฉพาะตัวทูริงที่ด้วยความที่คนแปลกและตรงทำให้เวลาเห็นทูริงทำอะไรที่เหมือนชาวโลกทั่วไปเราก็จึงอดยิ้มไม่ได้

หรือฉากที่ ทูริง ขอ โจน แต่งงานนี่นับว่าน่ารักมากครับ แม้ท้ายที่สุดชีวิตของทูริงและตัวหนังจะจบด้วยความเศร้าก็ตาม แต่หนังถึงจะบอกว่าหนังจงใจที่จะเล่าเรื่องของ ทูริง แต่ถึงกระนั้นช่วงที่ทูริงต้องไขปริศนาอีนิกม่าก็มีความน่าสนใจและลุ้นระทึกไม่แพ้หนังสงครามเลยแม้แต่น้อย ดูไปซักพักไม่แปลกใจที่จะอินไปกับตัวเรื่องราวที่ทูริงต้องเจอและอินไปกับเนื้อหาที่หนังเล่า ซึ่ง THE IMITATION GAME นับเป็นหนังที่ดีมากครับ ไม่แปลกใจที่หนังเข้าไปมีบทบาทในงานประกาศรางวัลต่างๆ มากขนาดนี้ โดยเฉพาะไฮไลท์สำคัญนั่นคือการแสดงของ เบเนดิคต์ คัมเบอร์แบทช์ จะว่าไงดีนี่คือการแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดของพี่เบนล่ะมั้ง? แค่ฉากร้องไห้ในฉากสุดท้ายของหนังนี่แหละก็เพียงพอแล้ว

แต่เอาจริงเพราะพี่เบนตีบทแตกและนำเสนอและทำให้เราเชื่อได้ว่า ทูริง เป็นอัจฉริยะที่แปลกแยกได้ ผ่านการแสดงทางน้ำเสียงและท่าทางครับ ซึ่งพี่เบนนับว่าเหมาะกับบทนี้เป็นอย่างมากเพราะเคย (และยังรับบทนี้อยู่) รับบทอัจฉริยะแปลกๆ อย่าง เชอร์ล็อค โฮลมส์ มาแล้ว งานนี้เลยกลายเป็นว่า พี่เบน เหมาะกับบทนี้จริงๆ .. THE IMITATION GAME เป็นหนังที่ดีครับสมควรแล้วที่จะได้ชิงออสการ์มากขนาดนั้น (แต่เชื่อลึกว่าส่วนใหญ่จะพลาดหมดเกือบทุกรางวัล) เราก็ไม่อยากให้พลาดครับ การที่จะได้ชมหนังสักเรื่องที่เล่าเรื่องของอัจฉริยะผู้แปลกแยกคนนี้ไม่ได้มีมาบ่อย เพราะงั้นต้องหาโอกาศไปชมกันให้ได้ครับ...