วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

SAVING MR. BANKS


SAVING MR. BANKS / สุภาพบุรุษนักฝัน


ผู้จัดจำหน่าย : WALT DISNEY STUDIOS MOTION PICTURES
สตูดิโอผู้สร้าง : WALT DISNEY PICTURES, RUBY FILMS, BBC FILMS
ผู้กำกับ : จอห์น ลี แฮนค็อก (THE BLIND SIDE)
ประเภทของหนัง : BIOGRAPHY | COMEDY | DRAMA

“บทความนี้อาจเปิดเผยเรื่องราวของหนังที่อาจทำให้คนที่ยังไม่ดูหนัง
อาจเสียอรรถรสในการดูหนังได้ และการเขียนนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ”

มุมมอง
“เรื่องราวอันเป็นตำนานของ แมรี่ ป๊อปปินส์ ที่ทั้งสุขและเศร้า แต่คุณจะรัก!!”


ทำไม พี.แอล. เทรเวอร์ส ถึงปาลูกแพร์ออกจากห้องนี่เป็นคำถามสำคัญที่หนังเตรียมกระชากใจคนดูในตอนท้ายของหนัง และทำไมใน MARY POPPINS เงินสองเพนนีถึงเป็นจุดพลิกสำคัญของเรื่องนี่ก็เป็นคำถามสำคัญที่หนังจะเฉลยแบบเรียกน้ำตาคนดู ทุกคนรู้จัก แมรี่ ป๊อปปินส์ พี่เลี้ยงเด็กวิเศษที่มาช่วยดูแลลูกสาวและลูกชายของคุณแบ๊งค์ส (เป็นที่มาของชื่อหนังเรื่องนี้) ในหนังเรื่อง MARY POPPINS เมื่อปี 1964 ที่มี จูลี่ แอนดรูวส์ และ ดิค แวน ไดค์ เล่นนี่คือเรื่องราวอันสุดแสนจะสุขแต่ก็เต็มไปด้วยคราบน้ำตากับความเป็นมาของ MARY POPPINS กับเรื่องราวของ พี.แอล. เทรเวอร์ส ผู้ให้กำเนิด แมรี่ ป๊อปปินส์ กับหนัง SAVING MR. BANKS เรื่องนี้!

เป็นหนังที่เปิดเรื่องราวตอนต้นเรื่องผ่านไดอะล็อกเดียวกันกับที่ เบิร์ก ตัวละครที่ ดิค แวน ไดค์ เล่นไว้ใน MARY POPPINS แต่ในหนังเรื่องนี้เป็นคำพูดของ โคลิน ฟาร์เรลล์ กับหนังที่เปิดเรื่องได้น่าสนใจและดึงดูดเช่นนี้แต่หนังกลับปิดเรื่องราวด้วยรอยยิ้มและคราบน้ำตาของคนดูและก็ตัวละครในหนังเรื่องนี้ ถือเป็นสูตรสำเร็จที่เคยเห็นมาแล้วใน FINDING NEVERLAND (กำกับโดย มาร์ค ฟอสเตอร์) ที่ จอห์นนี่ เด็ปป์ แสดงเป็น เซอร์ เจ.เอ็ม. แบร์รี่ ผู้ให้กำเนิด ปีเตอร์ แพน ในหนังเรื่องนี้ก็ไม่ต่างกัน เป็นหนังที่เปิดด้วยความรู้สึกดีๆ กินเวลาพอประมาณ แต่เมื่อหนังผ่านไปหนังเริ่มหนักขึ้นๆ แต่ก็จะมีช่วงที่ผ่อนคลาย แต่แล้วจู่ๆ หนังกลับดราม่าและพีคถึงขีดสุด แต่ในท้ายที่สุดก็จบลงด้วยความสุขแต่ก็มาพร้อมคราบน้ำตาของคนดู


ข้อสำคัญที่ทำให้หนังเรียกน้ำตาแบบมีความสุข ก็เพราะหนังนำเรื่องปัจจุบัน (ในหนังที่เป็นปี 1961-1964) มาตัดกับอดีต (ราวๆ ปี 1901-1902) เรื่องราวของ พี.แอล. เทรเวอร์ส ปัจจุบันก็คือการโดนตามตื้อของ วอลท์ ดิสนีย์ ที่หวังทำตามสัญญาของลูกสาวเอา แมรี่ ป๊อปปินส์ บินออกมาจากหน้าหนังสือและมีชีวิตบนจอภาพยนตร์ และอดีตกับอดีตของ พี.แอล. เทรเวอร์ส กับเหตุผลที่ทำไมเธอจึงไม่ยอมให้ วอลท์ ดิสนีย์ นำ แมรี่ ป๊อปปินส์ มาทำเป็นหนัง - หนังชาญฉลาดกับการนำเรื่องราวที่ห่างถึง 60 ปี (ในหนัง) มาร้อยเรียงและทำเป็นเรื่องเดียวกันได้ ซึ่งทั้งสองช่วงเวลาหนังก็ทำออกมาได้ดีทั้งสองช่วงมีทั้ง สุข และ เศร้า คละเคล้ากันไป

และนั่นถือเป็นคำเฉลยว่าทำไม พี.แอล. เทรเวอร์ส ถึงเขียน MARY POPPINS ขึ้นมานั่นก็เพราะมันเป็นเรื่องอดีตของเธอนั้นเอง


นอกจากหนังจะพาคนดูไปเจาะลึกเรื่องราวขึ้นตอนการสร้างแล้วหนังยังเอาสิ่งที่ พี.แอล. เทรเวอร์ส เจอในชีวิตจนเอามาเขียนหนังสือ และที่ ดิสนีย์ ทำไว้ในหนังมาขยายกว้างๆ นั่นคือคำถามที่เราเขียนเปิดหัวไว้ว่าทำไม พี.แอล. เทรเวอร์ส ถึงปาลูกแพร์ออกจากห้องและทำไมเงินสองเพนนีถึงสำคัญ นั่นคือสิ่งที่หนังทำไว้ให้คนดูที่เคยดู MARY POPPINS มาก่อนได้ติดตาม เพราะในหนังจะเอาส่วนต่างๆ ในหนังเรื่อง MARY POPPINS มาเล่นอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง แต่ในทีนี้เราก็จะไม่เฉลยหรอกว่าทำไมเธอปาลูกแพร์ออกจากห้อง คำตอบนี้เป็นสิ่งที่คุณต้องไปหากันเองในโรงหนัง

หนังยังเรียกรอยยิ้มจากคนดูได้กับมุกที่หนังจงใจเล่นอาทิเรื่องของ ดิค แวน ไดค์ ที่ พี.แอล. ต่อต้านการเลือก ดิค ให้มารับบท เบิร์ก แต่ถ้าใครเคยดูก็จะรู้คนที่ได้บทเบิร์กก็คือ ... ... ดิค แวน ไดค์ ... ... ส่วนใครที่ไม่เคยดู MARY POPPINS ก็ไม่เป็นไรครับ มุกพวกนี้ไม่ได้สำคัญถึงขนาดดูแล้วไม่เก็ต แค่เป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ผู้สร้างเอาเรื่องจริงมาใส่ในหนังแค่นั้นเอง


ถ้าจะให้พูดก็คือ SAVING MR. BANKS เป็นหนังที่ทำเซอร์ไพรซ์ได้ตลอดเวลาไม่เพียงจะเป็นหนังที่ดีมากๆ แล้ว ใน 30 นาทีสุดท้ายของหนังๆ ปล่อยทุกสิ่งที่มีใส่คนดูจริงๆ ทั้งเรื่องอดีตของ พี.แอล. เทรเวอร์ส และ เหตุผลที่  พี.แอล. ถึงเซ็นสัญญากับอดีตอันรันทดของ วอลท์ ดิสนีย์ !!

สำหรับตัวหนังเองจะมีโมเมนท์สำคัญๆ เป็นช่วงๆ แต่ที่ชอบและโดนที่สุดก็คือการที่หนังปล่อยฉากที่เป็นเพลง "Let's Go Fly A Kite" (แต่งโดย ริชาร์ด เอ็ม. และ โรเบิร์ต บี. ตระกูลเชอร์แมน) ฉากนี้มีน้ำตาซึมกันเลยทีเดียว (คือมันเป็นเพลงสุดท้ายในหนัง MARY POPPINS ที่เป็นบทสรุปที่กินใจมาก และพอหนังเอามาใส่ได้ถูกช่วงมันก็น่ะ) หรือฉากที่น่าจดจำก็ฉากที่ ราลฟ์ พูดกับ พี.แอล. เทรเวอร์ส ในสนามบินเรื่องลูกและหนังสือและลายเซ็น และในฉากที่พูดกันในสวนที่เป็นเหตุผลที่ทำไมเรื่องอากาศสำคัญในแคลิฟอร์เนีย


ต้องขอชื่นชมกับมือเขียนบทของ เคลลี่ มาร์เซล และ ซู สมิธ และผู้กำกับของหนัง จอห์น ลี แฮนค็อก จาก THE BLIND SIDE ที่พัฒนาและปล่อยหนังที่จัดว่าโดนในทุกส่วนเรื่องนี้, เอมม่า ธอมป์สัน ในบท พี.แอล. เทรเวอร์ส และ ทอม แฮงค์ส ในบท วอลท์ ดิสนีย์ เป็นสุดยอดที่จะหาได้ในยุคนี้ทั้งคู่มีเคมีที่ลงตัวมากในหนังเรื่องนี้ ส่วน โคลิน ฟาร์เรลล์, เจสัน ชวาร์ตซแมน, บี.เจ. โนวัค, พอล จีอาแมตติ, รูธ วิลสัน ต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีจนไม่น่าเชื่อ

จนน่าเจ็บใจที่ ออสการ์ ไม่มองหนังเรื่องนี้จริงๆ (ทอม แฮงค์ส น่าเจ็บใจที่สุดพลาดไม่ได้ชิงทั้ง นำชายจาก CAPTAIN PHILLIPS และเรื่องนี้) ทั้งที่นี่ถือเป็นหนังคนแสดงที่จัดว่าพีคที่สุดในทุกส่วนของหนังทั้งการดำเนินเรื่อง, การพัฒนาตัวละคร, การแสดง,  เป็นหนังที่พีคมากๆ ในรอบหลายปีของ ดิสนีย์ จริงๆ สำหรับ SAVING MR. BANKS เรื่องนี้!...


ความยาวทั้งหมด 125 นาที
คะแนน 10/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger